+ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี (61 มม.) กรุงเทพมหานคร (59 มม.) และ จ.สตูล (57 มม.)
+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 39,182 ล้าน ลบ.ม. (68%) ขนาดใหญ่ 31,597 ล้าน ลบ.ม. (66%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน แห่ง (เขื่อนแม่กวงฯ แม่งัด ภูมิพล แม่จาง สิริกิติ์ และบางลาง)
+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง บางปะกง ค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนปริมาณออกซิเจนละลายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและบางปะกง ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
+ เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงระหว่างวันที่ 19-28 พ.ย.64 เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง และอาจส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อท่วมบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
+ กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา–ท่าจีน เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบายน้ำส่วนเกินออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งบริหารจัดการน้ำเพื่อเก็บกักน้ำใช้ในฤดูแล้ง ตามข้อสั่งการของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) โดยกรมชลประทานดำเนินการ ดังนี้
ลุ่มน้ำท่าจีน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 413 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 143 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำสายหลักและทะเลอ่าวไทยตามลำดับ ปัจจุบันสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ ทั้ง 11 ทุ่งรวมประมาณ 1,335 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ จะคงเหลือปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง โดยมีปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) รวม 14,837 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 60%ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำใช้การประมาณ 8,141 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 45% กอนช. เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาอุทกภัยในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งติดตาม และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำรวมทั้งบริหารจัดการน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งนี้