+ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางมีฝนตกในระยะนี้ ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง
+ ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณ จ.ชุมพร (91 มม.) จ.สตูล (88 มม.) และ จ.ยะลา (82 มม.)
+ ปริมาณน้ำใช้การแหล่งน้ำทั้งประเทศทุกขนาด 39,181 ล้าน ลบ.ม. (68%) ขนาดใหญ่ 31,595 ล้าน ลบ.ม. (66%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน แห่ง (เขื่อนแม่กวงฯ แม่งัด ภูมิพล แม่จาง สิริกิติ์ และบางลาง)
+ คุณภาพน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ณ จุดเฝ้าระวัง ในแม่น้ำสายหลัก แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง บางปะกง ค่าความเค็มและปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
+ เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วงระหว่างวันที่ 19-28 พ.ย.64 เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง บริเวณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า และพื้นใกล้เคียง ประกอบกับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยคาดการณ์ว่าระดับน้ำ
ในแม่เจ้าพระยาบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ประมาณ 0.8-2.0 ม. และป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.70-1.90 ม. จึงขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
+ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กอนช. ประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม น้ำล้นอ่างเก็บน้ำ และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. 64 ดังนี้
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร
สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง ตรัง และสตูล
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80%
และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ
ในภาคใต้ บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง ภูเก็ต และตรัง
เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณคลองบางสะพาน คลองบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ คลองท่าตะเภา คลองชุมพร
อ.เมือง คลองสวี อ.สวี คลองหลังสวน อ.หลังสวน แม่น้ำตาปี อ.พระแสง
อ.พุนพิน และ อ.เมือง คลองท่าชนะ อ.ท่าชนะ คลองไชยา อ.ไชยา คลองกาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี คลองท่าดี อ.ลานสกา อ.พระพรหม และ อ.เมือง คลองกลาย อ.นบพิตำ อ.สิชล อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช แม่น้ำตรัง อ.วังวิเศษ คลองนาน้อย อ.นาโยง จ.ตรัง คลองท่าแนะ จ.พัทลุง ทะเลสาบสงขลา อ.สิงหนคร และคลองอู่ตะเภา อ.สะเดา จ.สงขลา
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ