กระทรวงเกษตรฯ ขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (จันทบุรี ชลบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และระยอง)

กระทรวงเกษตรฯ ขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (จันทบุรี ชลบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และระยอง) และโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ (กาญจนบุรี)

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 64 นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ในฐานะ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนฯ 2 คณะ ผ่านระบบ Video Conference (Zoom Meeting) จากห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเริ่มจากการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งที่ประชุมแจ้งให้คณะทำงานฯ ทราบผลการดำเนินงานในปี 2564 ที่ดำเนินการในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และระยอง ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมขับเคลื่อน มีการดำเนินงานที่สอดรับกับแผนแม่บทสร้างความสมดุลระหว่างคนกับช้างป่า ภายใต้โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ ผ่านกลยุทธ์ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพป่าชุมชน และกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนอาชีพ พัฒนาอาชีพ โดยมีกิจกรรมตั้งแต่การอบรมให้ความรู้ ด้านการผลิต การฝึกอบรมอาชีพเสริมต่าง ๆ การจัดทำบัญชีครัวเรือน การพัฒนาธุรกิจชุมชน การจัดหาแหล่งน้ำชุมชน การจัดทำศูนย์เรียนรู้และพัฒนาเกษตรกรต้นแบบ เป็นต้น โดยบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในและนอกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณป่ารอยต่อสามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้ผลดีและลดผลกระทบจากการบุกรุกพื้นที่ทำการเกษตรของช้างป่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณา (ร่าง) แผนปฏิบัติงานด้านการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2565 – 2568 ตามแผนแม่บทสร้างความสมดุลระหว่างคนกับช้างป่า ภายใต้โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

จากนั้น รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งโดยคณะทำงานฯ ได้มรายงานผลการดำเนินงาน ในเรื่องกาสำรวจข้อมูล โดยชุมชนบ้านสาละวะ มีการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพปลูกผักสวนครัว จำนวน 60 ครัวเรือน และชุมนบ้านไล่โว่ มีผู้เข้าร่วมโครงการ 50 ครัวเรือน และส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีกิจกรรมเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม ทั้งการส่งเสริมการปลูกพืชแบบแปลงรวม การส่งเสริมการพัฒนาไม้ผลเดิม การส่งเสริมพัฒนาอาชีพ และการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนและการตลาด โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่สนับสนุนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์โครงการต่อไป พร้อมกันนี้ ได้พิจารณา (ร่าง) แผนปฏิบัติงานด้านการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2565 – 2569 โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเน้นไปในการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำการเกษตรอินทรีย์ โดยให้มีความสอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด