จีนตั้งเป้าบรรลุการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุดและความเป็นกลางทางคาร์บอน

รัฐบาลจีนได้เผยแพร่แนวปฏิบัติในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุด ในปี 2573 และความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2603 ภายใต้ปรัชญาการพัฒนาใหม่

นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง แจ้งว่ารัฐบาลจีนได้เผยแพร่แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนภายในประเทศ โดยมีเป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่

(1) ภายในปี 2573 จะบรรลุการปล่อยคาร์บอนระดับสูงสุด คงที่ และลดลง

(2) ภายในปี 2603 จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำและการหมุนเวียนอย่างรอบด้าน โดยมีมาตรการที่สำคัญ อาทิ การส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมในเชิงลึก การเร่งพัฒนาระบบพลังงานสะอาด คาร์บอนต่ำ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และการเร่งสร้างระบบขนส่งคาร์บอนต่ำ เป็นต้น

ในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมในเชิงลึกนั้น จีนจะดำเนินการ

(1) เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรม

(2) ควบคุมโครงการที่ใช้พลังงานมากและมีการปล่อยมลพิษสูง

(3) พัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำอย่างจริงจัง โดยเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งอนาคต เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานใหม่ วัสดุใหม่ อุปกรณ์ไฮเอนด์ (Hi-end) ยานพาหนะพลังงานใหม่ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบินและอวกาศ และอุปกรณ์ทางทะเล

ทั้งนี้ แนวปฏิบัติข้างต้นสอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมการพัฒนาสีเขียว (Green Development) ที่จีนได้กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ปี 2564-2568) ซึ่งนับว่าเป็นการมุ่งมั่นสู่การพัฒนาในเชิงคุณภาพระดับสูงของประเทศอย่างเป็นขั้นตอน นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง เห็นว่าต้นทุนของสินค้าในห่วงโซ่อุปทานการผลิตจะสูงขึ้น โดยเฉพาะเหล็ก ซีเมนต์ กระจก/แก้ว และอลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ใช้พลังงานมากและมีการปล่อยมลพิษสูง ซึ่งจีนจะเข้าไปควบคุมการผลิต และอาจจะย้ายฐานการผลิตออกจากจีน โดยในระยะเริ่มแรก จีนอาจมีการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อให้วัตดุดิบเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ เช่น ลดภาษีนำเข้า ขึ้นภาษีส่งออก ฯลฯ และมีแนวโน้มที่จะออกกฎระเบียบเพื่อลดการนำเข้าสินค้าที่ก่อให้เกิดมลพิษสูง รวมถึงนำมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมมาเป็นเครื่องมือหรือมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น

นายธัชชญาน์พลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties : UNFCCC COP) ครั้งที่ 26 ในวันที่ 31 ตุลาคม-12 พฤศจิกายน 2564 ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ จีนรายงานว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนในประเทศเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งในปี 2563 ลดลงกว่า 48.8% เมื่อเทียบกับปี 2548 และลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับปี 2558 และจีนจะเดินหน้าลดคาร์บอนในอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน อุตสาหกรรม การก่อสร้าง และการขนส่ง ควบคู่ไปกับมาตรการสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การคลังและภาษี และแรงจูงใจทางการเงิน เพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง ดังนั้น ภาคเอกชนไทยที่มีการส่งออกสินค้าไปยังจีนต้องเร่งเตรียมความพร้อม ในการปรับกระบวนการผลิตที่ตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าวของจีนในอนาคต
**************************
17 พฤศจิกายน 2564