“อภิศักดิ์” ขอให้เว้นวรรคการเลี้ยงสุกร

นายอภิศักดิ์  อังคสิทธิ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ  คนที่ 1  ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์กล่าวถึง สถานการณ์การเลี้ยงสุกรในภาวะปัจจุบัน ว่า เรื่องของการเลี้ยงสุกรถือว่าหนัก มาก/น้อยต่างกันตรงที่เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อย รายกลาง รายใหญ่ ปัญหาของผู้เลี้ยงสุกรมี 2 เรื่องหลักๆ คือ โรคและอาหารสัตว์  โรคตอนนี้มี อหิวาต์สุกร(ASF)  เพิร์ส(PRRS)  ปากและเท้าเปื่อย  อาหารสัตว์ ตอนนี้ราคาแพงทุกอย่าง เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ปลายข้าว  เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น  ถ้าทั้ง 2 ปัญหามาพร้อมกันควรเว้นวรรคการเลี้ยง หรือปรับเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ เหตุเพราะมีวัคซีนป้องกันโรคและมีความปลอดภัยสูง ในขณะที่สุกร ณ วันนี้ยังไม่มี มีแต่ข่าวไม่มีที่มาว่าประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ทำการทดลอง หรือกลางปี 2565 จะมีวัคซีน ซึ่งไม่มีใครยืนยันได้  เป็นไปได้อยากให้มหาวิทยาลัยเข้ามามีส่วนคิดค้นจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรอย่างสูงสุด

ทั้งนี้ ด้านการจัดการฟาร์มสุกรให้มีมาตรฐาน ปัจจุบันยังไม่ชัดเจน เกษตรกรรายย่อยสถานการณ์ตอนนี้ให้อนุโลมเว้นระยะสัก 2 ปีก่อน เหตุเพราะมีความอ่อนไหวหากเลี้ยงแล้วขาดทุน ต้นทุนสูงก็ไม่อยากเลี้ยงเพราะเสี่ยง  เรื่องความสะอาดการปนเปื้อนต้องระวังให้มาก เพราะส่วนใหญ่คอกเลี้ยงกับโรงเชือดจะอยู่ติดกัน พอเชือดแล้วส่งขายตลาดนัดบ้าง รถพุ่มพวงบ้าง โดยเฉพาะสุกรหนีโรคยิ่งน่าห่วงใย การควบคุมจะทำได้ยากกว่าด้วยเจ้าหน้าที่ของภาครัฐมีจำนวนน้อย  ส่วนรายใหญ่ต้องแยกเป็นลักษณะโรงเรือนปิดกับเปิด โรงเรือนในระบบปิดปัญหาน้อยกว่าโรงเรือนระบบเปิดเพราะฉะนั้นต้องกำหนดรูปแบบฟาร์มให้ชัดเจน พื้นที่ประกอบการเลี้ยงต้องโปร่ง โล่ง  สุกรจะได้ไม่เครียด  อาหารต้องสดชวนกิน  พื้นที่เลี้ยงกับโรงเชือดควรกำหนดระยะห่าง  กำแพง  รั้ว  ถนนตัดใหม่  พื้นที่ก่อนนำสุกรเข้าเลี้ยง ทางเข้า/ออก ต้องคนละทาง  คลอรีนในน้ำ  ยาฆ่าเชื้อ  คนเลี้ยง/ดูแลต้องคอกใครคอกมัน ไม่งั้นอาจสุ่มเสี่ยงเกิดการปนเปื้อน รวมถึงสภาพแวดล้อม  กลิ่น  ระบบน้ำ ของเสียมีเยอะมากอาจนำไปสู่ระบบพืชพันธุ์ธัญญาหารรอบพื้นที่อาณาบริเวณนั้น  ทุกอย่างต้องสมดุลและต้องใช้ทุกสิ่งอย่างให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เช่น น้ำปุ๋ยที่เกิดจากฟาร์มนำไปปรับปรุงดิน รดแปลงหญ้า กล้วย มะพร้าว งอกงามดีมาก ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ

“ระยะนี้นะไม่ควรเลี้ยงหมู ไม่ใช่ว่ากลัวมาแย่งชิงราคาหรือตลาดนะ แต่ด้วยความเป็นห่วง อาหารสัตว์ตอนนี้ราคาสูงขึ้นบางพื้นที่ขาดแคลน ไหนจะโรคอีก เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนและความเสี่ยง  ในฐานะที่เป็นผู้เลี้ยงคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ ซึ่งเริ่มต้นการเลี้ยงจากหมู 2 ตัว ขยับขยายจนปัจจุบันที่พรประเสริฐฟาร์ม จ.บุรีรัมย์ เป็นฟาร์มใหญ่ อยากให้เว้นวรรคจนกว่าวัคซีนหมูจะออกมา เปลี่ยนไปเลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ หรือทำเกษตรอื่นๆ แต่ถ้าถามว่าโรคนี่อยู่กับมันได้ไหมก็เหมือนโควิดที่เป็นไวรัสคนปรับตัวแล้วอยู่กับมันได้ โรคสุกรก็เป็นไวรัส ฉะนั้นดูแลเขาได้เหมือนคนเลย เรื่องความสะอาด อาหาร ไม่เครียด ต้องแข็งแรง เหล่านี้เป็นต้น”  นายอภิศักดิ์ กล่าวปิดท้าย