ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 10 จังหวัด ประสานดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

16 พ.ย.64 เวลา 09.55 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด โดยผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 – 16 พ.ย. 64 ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 9 จังหวัด รวม 43 อำเภอ 135 ตำบล 579 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,829 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี และสงขลา) รวม 10 อำเภอ 52 ตำบล  315 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน ขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 16 พ.ย. 64 ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด (หนองบัวลำภู อุบลราชธานี สุพรรณบุรี  อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม) รวม 24 อำเภอ 249 ตำบล 1,614 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90,830 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ราย ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 – 16 พ.ย. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง ภูเก็ต และพังงา รวม 43 อำเภอ 135 ตำบล 579 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,829 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และสงขลา รวม 10 อำเภอ 52 ตำบล  315 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลง ดังนี้

1.ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอสวี อำเภอเมืองชุมพร และอำเภอท่าแซะ รวม 35 ตำบล 277 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,558 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ระดับน้ำทรงตัว

2.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอกาญจนดิษฐ์ รวม 13 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 795 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3.สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ รวม 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 556 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 16 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม) รวม 24 อำเภอ 249 ตำบล 1,614 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90,830 ครัวเรือน แยกเป็น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 10 ตำบล 38 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 761 ครัวเรือน ได้แก่

4.หนองบัวลำภู ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโนนสัง รวม 6 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 188 ครัวเรือน

5.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 573 ครัวเรือน

ภาคกลาง 5 จังหวัด รวม 20 อำเภอ 232 ตำบล 1,555 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 89,967 ครัวเรือน ได้แก่

6.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน

7.อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 12 ตำบล 52 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,444 ครัวเรือน

8.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 106 ตำบล 680 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,385 ครัวเรือน

9.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก และอำเภอลาดหลุมแก้ว รวม 25 ตำบล 81 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,176 ครัวเรือน

10.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน

ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง/////