นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายวันที่ผ่านพร้อมกำชับให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เนื่องจากวันนี้ (14 พฤศจิกายน 2564) กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศว่ายังฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ได้แก่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ พร้อมฝากให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง
สำหรับการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 41 ช่วง เขาบ่อ – ท่าทอง พื้นที่ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ขณะนี้ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติและเปิดให้รถทุกชนิดสัญจรได้ทั้งขาขึ้นและขาล่องเนื่องจากระดับน้ำลดลงแล้ว แต่สภาพอากาศมืดคลึ้มมีฝนตกบางช่วง จึงกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและอำนวยความสะดวกปลอดภัยด้านการจราจรให้กับประชาชนในการเดินทางตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สำหรับสถานการณ์วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2564) เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ จำนวน 4 จังหวัด 4 สายทาง ซึ่งสามารถสัญจรได้ตามปกติ มีบางเส้นทางที่การจราจรโดยเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ได้แก่
◾1. ทล.3178 ช่วง เพชรบุรี-บ้านแหลมฝั่งตะวันออก กม.10+700-10+900 ระดับน้ำสูง 10 ซม พื้นที่ อ.บ้านแหลม
จ.เพชรบุรี
◾2. ทล. 3094 ช่วง ทางเข้านครชัยศรี กม.0+000-1+894 ขาเข้าและขาออก ระดับน้ำสูง 20 ซม. พื้นที่ อ.นครชัยศรี
จ.นครปฐม
◾3. ทล.327 ช่วง สี่แยกปฐมพร-แยกหมอเล็ก กม.1+100-2+000 ระดับน้ำสูง 15 ซม. พื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร
◾4 ทล.4191 ช่วง ไชยา-เขาหลัก กม.2+697-3+102 ระดับน้ำสูง 5 ซม. พื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1