“ชูช่อ ผลิดอก ออกผล” พาชมความสำเร็จของ “โคก หนอง นา พช.” อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี และร่วมเอามื้อสามัคคี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดยนางคำประไพ รักษาขันธ์ พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอและนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) และครัวเรือนพื้นที่ต้นแบบ ติดตามความสำเร็จและผลผลิตจากการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ณ แปลงครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน (Househole Lab Model for quality oflife : HLM) และแปลงโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) พร้อมดำเนินการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีตามโครงการฯ ในพื้นที่อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี

โดยคณะฯ ได้ติดตามสนับสนุนโครงการฯ ได้แก่ ตำบลตระการ นางสมใจ ภูติรักษ์, ตำบลเซเป็ด นายสมควร วิลามาศ, ตำบลคอนสาย นายประสงค์ นามบุตร นายมาวิน พสุนนท์ นางสมหวัง ยี่โถ นางรุ่งนภา จันทร์หอม, ตำบลบ้านแดงและตำบลคำเจริญ นายบุญหนา ศรีมาฤทธิ์ ซึ่งภายในแปลงมีการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ เช่น บวบ มะเขือ มะละกอ พริก ผักชีฝรั่ง ผักชี กล้วย ตะไคร้ เป็นต้น พร้อมร่วมปรับภูมิทัศน์ภายในแปลงอีกด้วยโดยมีนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ร่วมดำเนินงานภายในแปลงตามตำบลที่ได้รับผิดชอบ ทั้งนี้ ได้ดำเนินการและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้น คณะฯ ยังได้ติดตามสนับนุนพื้นที่ต้นแบบ CLM ระดับตำบล ตำบลขามเปี้ย แปลง นายสายันต์ แก้วพรม, ตำบลคอนสาย แปลง นายอัครพงษ์ ทันธิมา ตำบลไหล่ทุ่ง และตำบลนาสะไม โดยร่วมกับครัวเรือน ดำเนินกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ปลูกผักสวนครัวและปรับภูมิทัศน์ภายในแปลง นอกจากนั้น ยังได้สร้างฐานเรียนรู้ตามฐานต่างๆ และตรวจรับวัสดุในการสร้างฐานฯ ด้วย จะเห็นได้ชัดว่า โคก หนอง นา เป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ให้เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้าน จนมีผลผลิตที่ “ชูช่อ ออกดอก ออกผล” สอดคล้องกับธรรมชาติ สร้างทั้งรายได้และอาชีพให้กับครัวเรือน รวมถึงช่วยเหลือและแบ่งปัน เพื่อเป็นต้นแบบให้กับครัวเรือนและชุมชนได้เข้ามาศึกษาหลักกสิกรรมธรรมชาติ นำไปประยุกต์และปรับใช้ให้เข้ากับครัวเรือนของตนเอง ทั้งด้านทฤษฎีและการลงมือปฎิบัติ “โคก หนอง นา พช.” เพื่อสร้างชีวิตและความสุขที่ยั่งยืนในรูปแบบของเศรษฐกิจพอเพียง

โอกาสนี้ เจ้าของแปลงต่างก็เปิดเผยว่า “มีความสุขและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการเป็นส่วนหนึ่งที่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการฯ และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะผลผลิตที่กำลังผลิดอกออกผลตามฤดูกาลในปัจจุบัน อนาคตต่อไปจะมุ่งดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และหลักกสิกรรมธรรมชาติ ตามที่ได้รับการฝึกอบรมมา ขอขอบคุณหน่วยงาน กรมการพัฒนาชุมชน จังหวัด อำเภอ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน นพต. ที่ให้การสนับสนุนการขุดปรับพื้นที่ ปัจจัยการผลิต และสร้างฐานเรียนรู้ จนสามารถนำพาความความมั่นคงทางอาหารและความอุดมสมบูรณ์มาให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19”

ขณะที่ นางคำประไพ รักษาขันธ์ พัฒนาการอำเภอตระการพืชผล ได้เปิดเผยว่า “สำหรับอำเภอตระการพืชผล มีแปลงที่เข้าร่วมโครงการ “โคก หนอง นา พช.” มากที่สุดในประเทศไทย ถึง 1,190 แปง มีนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ทั้งสิ้น 150 คน จนได้รับการขนานนามว่า “อาณาจักร โคก หนอง นา พช.” จึงต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน ผ่านกิจกรรมการพัฒนาและสนับสนุนพื้นที่ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน ในโครงการฯ ที่แสดงให้เห็นถึงการร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตามวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเดิมที่พบในทุกพื้นที่ เป็นกระบวนการทำงานเพื่อขับเคลื่อนศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ เพื่อนำเอาวิถีชีวิตดั้งเดิม ให้กลายเป็นวิถีใหม่ โดยนำวัฒนธรรมอันดีของคนไทยย้อนกลับมาปฏิบัติให้เกิดการปฏิบัติตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ และสร้างความเป็นจิตอาสาพัฒนาชุมชนให้เกิดภาคีเครือข่ายที่มีพลังและความสามัคคีและอยู่ดีมีสุข นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืนต่อไป”