นำรายได้เข้าประเทศ! “จุรินทร์” โชว์ยอดค้าชายแดน-ผ่านแดน กันยายน ทำรายได้เข้ากว่า 96,184 ล้านบาท + เพิ่ม 38.32% เดินหน้าส่งออก! เต็มเหนี่ยว

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแถลงข่าวการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนกันยายน 2564 ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายจุรินทร์ กล่าวว่าเดือนกันยายนปีนี้ มีการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและข้ามแดนรวม 96,184 ล้านบาท เป็น +38.32% โดยมีมูลค่ารวมทางการค้าทั้งส่งออกและนำเข้า เป็นเงิน 157,182 ล้านบาทตัวเลขส่งออก การค้าชายแดนและข้ามแดน 9 เดือนแรกของปีนี้ ม.ค.-ก.ย.2564 มีการส่งออกแล้ว 778,367 ล้านบาท เป็น +38.06% คิดเป็นมูลค่าการค้ารวมทั้งส่งออกและนำเข้า 9 เดือนแรกของปีนี้ เป็นมูลค่า 1,275,542 ล้านบาท เป้าหมายที่เคยกำหนดไว้ปี 2564 ทั้งปีสำหรับการค้าชายแดนและผ่านแดน ตั้งเป้าขยายตัว 3% ต้องทำตัวเลขการส่งออกให้ได้ 789,198 ล้านบาท แต่ 9 เดือนแรกทำไปแล้ว 778,367 ล้านบาท ขาดอีกนิดเดียวก็จะครบตามเป้าหมาย คิดเป็น 98.63% ของเป้าหมาย ยังเหลืออีก 3 เดือน ต.ค.-ธ.ค. จะเกินเป้าหมายที่ 3% แน่นอนสำหรับ

1.ประเทศเมียนมาตัวเลขส่งออกเดือนกันยายน 13,387 ล้านบาท + 102.06%

2.ประเทศมาเลเซีย มูลค่า 16,710 ล้านบาท เป็น +42.59%

3.กัมพูชา มูลค่า 13,171 ล้านบาท +25.69%

4.สปป.ลาว ส่งออก 9,916 ล้านบาท +22%

5.สิงคโปร์ ส่งออก 5,988 ล้านบาท คือการส่งข้ามแดน + 83.81%

6.ประเทศจีน ส่งออก 15,335 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.37%

7.เวียดนาม ส่งออก 3,181 ล้านบาท ติดลบ 30.79% สาเหตุที่ประเทศเวียดนามเป็นลบเพราะในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดในเวียดนาม ทำให้รัฐบาลเข้มงวดประกอบกับคำสั่งล็อกดาวน์ในนครโฮจิมินห์ จึงทำให้การส่งสินค้าไทยข้ามแดนไปเวียดนามมีอุปสรรค

ส่วนประเทศอื่นสถานการณ์ถือว่าเป็นบวกโดยเฉพาะเมียนมา แม้การเมืองภายในยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ความต้องการสินค้าจากประเทศไทยยังสูงมากส่วนจีนนั้นตัวเลขยังเป็นบวกมากในเดือนกันยายนถึง 26.37% เพราะเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวมากขึ้น ความต้องการสินค้าคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ส่วนประกอบ +66% ยางพารา +101% และไม้แปรรูป +52% เป็นต้น คาดว่าเศรษฐกิจจีนปี 64 จะขยายตัวถึง 8.1%

ประเทศมาเลเซีย ยังดีอยู่เพราะภาคการผลิตเริ่มกลับมาฟื้นตัว ประกอบกับความต้องการสินค้าไทยมากขึ้น และตัวเลขการค้าในเดือนกันยายนในภาพรวมทั้งการค้าข้ามแดนและผ่านแดนเกิดจากมาตรการการทำงานร่วมกันของกระทรวงพาณิชย์กับเอกชนในนาม กรอ.พาณิชย์.อย่างมีประสิทธิภาพ และได้มีการดำเนินการโครงการจับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก ช่วยให้ SMEs ส่งออกมีเงินทุนหมุนเวียน ได้อนุมัติไปแล้วถึง 2,500 ล้านบาทและมีผลในเดือนกันยายนด้วย

ประกอบกับการทำงานเชิงรุกระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะให้ทูตพาณิชย์กับทูตเกษตรเร่งเจรจาเวลามีปัญหาตรงด่านชายแดน ช่วงที่ผ่านมาปรากฏว่าสินค้าที่ส่งผ่านไปในจีนผ่านด่านต่างๆได้มีการเจรจาจนกระทั่งมีการเปิดด่านเพิ่มขึ้นจาก 9 ด่านเป็น 16 ด่าน(ด่านส่งออกนำเข้าผลไม้ไปจีนทางบก)โดยไทยเพิ่มจาก 5 ด่านเป็น 6 ด่าน คือ เพิ่มจากเชียงของ มุกดาหาร นครพนม บ้านผักกาด และบึงกาฬเพิ่มอีก 1 ด่าน คือ จังหวัดหนองคาย
ส่วนฝั่งจีนเพิ่มจุดนำเข้าที่ด่านจาก 4 ด่านเป็น 10 ด่าน เดิม 4 ด่าน คือ โมฮาน โหย่วอี้กวน ตงซิงและผิงเสียง เพิ่มอีก 6 ด่าน คือ ด่านรถไฟโมฮาน เหอโข่ว ด่านรถไฟเหอโข่ว เทียนเป่า หลงปังและสุยโข่ว ด่านไทย-จีน เพิ่มขึ้นจาก 9 ด่านเป็น 16 ด่านทำให้การส่งออกชายแดนผ่านแดนสะดวกยิ่งขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทของเรายังคงอ่อนค่าส่งผลให้ราคาของเราแข่งขันได้ดีและขณะนี้สำหรับด่านไทย-มาเลเซีย ตนได้เดินทางไปประชุมกับด่านตากใบและบูเก๊ะตา ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งไทยประสงค์จะเห็นการเปิดด่าน 2 ด่านนี้โดยเร็ว เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่อไปในอนาคต ได้มีการสั่งการให้ทูตพาณิชย์ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและเจรจากับฝั่งมาเลเซีย ตั้งเป้าว่ากลางเดือนพฤศจิกายน จะสามารถเปิดด่านได้ แล้วจะเรียนให้ทราบต่อไป และโครงการ”จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก ที่หมดอายุโครงการวันที่ 7 เดือน 11 จะขยายเวลาไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้กับ SMEs ต่อไป จะได้ช่วยกันส่งเสริมตัวเลขการค้าชายแดนและข้ามแดนได้มากขึ้น