อธิบดีราชทัณฑ์ ลงพื้นที่น่าน คิกออฟเยี่ยมญาติผู้ต้องขังวันแรกอบอุ่น ขอทุกคนใช้โอกาสนี้สร้างสายสัมพันธ์ที่ดี ตัวแทนนักโทษปลื้มได้เจอหน้าครอบครัวอีกครั้ง ขอบคุณนโยบาย รมว.ยุติธรรม สร้างโอกาสสร้างอาชีพ สัญญาไม่กลับไปทำผิดซ้ำ

วันที่ 12 พ.ย.เวลา 10.00 น. ที่เรือนจำชั่วคราวเขาน้อย จ.น่าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายด้านการฝึกวิชาชีพ และเปิดการเยี่ยมผู้ต้องขังเป็นวันแรกหลังวิกฤตโควิด-19 โดยปฏิบัติหน้าที่แทน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ติดภารกิจด่วนในการประชุม ศบค. พร้อมด้วย นายคุณดร งามธุระ คณะที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวันฉัตร วณิชพันธุ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดน่าน และผบ.เรือนจำจากเขต 5 ร่วมงาน

นายอายุตม์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์นอกจากต้องปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้กระทำผิดแล้วยังมีภารกิจสำคัญยิ่ง ในการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง พร้อมให้โอกาสผู้กระทำผิดได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเฉพาะการส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะอาชีพเป็นการยกระดับและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เต็มศักยภาพ เพื่อให้ผู้ต้องขังเหล่านี้สามารถกลับไปอยู่ร่วมกับสังคมอย่างเป็นปกติสุขและไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ การเปิดเยี่ยมผู้ต้องขังครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ที่อบอุ่น แน่นแฟ้นระหว่างผู้ต้องขังกับครอบครัวอีกครั้ง ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขยายวงกว้าง ทำให้ต้องงดการพบปะเยี่ยมเยียนของครอบครัวในระยะเวลาหนึ่ง ตนขอเป็นกำลังใจให้ผู้ต้องขังและครอบครัวทุกคนได้ใช้โอกาสที่สำคัญนี้ในการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี สร้างพลังบวกให้กันและกัน ผู้ต้องขังจะได้มีพลังกายพลังใจที่จะมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาตนเอง อยู่ในระเบียบของสังคม เป็นพลเมืองดีของชาติเพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่ดี โดยไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ

“ผมขอขอบคุณเรือนจำจังหวัดน่านที่ได้ดำเนินการตามมาตรการด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคจนสามารถเปิดให้มีการเยี่ยมได้ในวันนี้ รวมถึงหน่วยงานภาคีต่างๆ ที่เล็งเห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ที่เคยผิดพลาดมาก่อน โดยเฉพาะญาติและครอบครัวที่เดินทางมาให้กำลังใจผู้ต้องขังในวันนี้ด้วยและหวังว่าผู้ต้องขังทุกคนจะได้นำโอกาสนี้ไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดคุณประโยชน์แก่ตนเองครอบครัวและสังคมต่อไป”นายอายุตม์ กล่าว

จากนั้นนายอายุตม์ ได้พบปะพูดคุยกับผู้ต้องขังและญาติที่มาเยี่ยม และมอบหน้ากาก N95 พืชผักปลอดสารพิษให้กับและญาติผู้ต้องขัง ที่ลานเวทีชาวบ้าน นายอายุตม์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราจำเป็นต้องงดให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังเหตุจากโควิดระบาด ตนได้ใช้มาตรการของสาธารณสุข ไม่ให้เข้าเยี่ยมตามปกติเด็ดขาด จึงปลี่ยนมาใช้เยี่ยมแบบออนไลน์แทน การจะให้ญาติเจ้าเยี่ยมได้ต่อเมื่อผู้ต้องขังและญาติต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จึงทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดและไร้ปัญหา โดยจะให้เยี่ยมแบบ 1 ต่อ 1 ไปก่อนเพื่อความสบายใจ

นายคุณดร กล่าวว่า นายสมศักดิ์ อยากให้ผู้ต้องขังที่เดินทางหลงผิดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเราไม่เคยมองว่าเป็นปัญหาของสังคมไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ จึงพยายามเดินหน้านโยบายต่าง ๆให้ผู้ต้องขัง เช่น เรื่องการสร้างงานสร้างอาชีพ ขยายพื้นที่นอนในเรือนจำ และส่งผู้ต้องไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรเราเตรียมพื้นที่ไว้ให้แล้ว เพื่อปลูกพืชสมุนไพรต่าง ๆ อาทิ พืชฟ้าทะลายโจร อะโวคาโด ผักบุ้ง และพืชผักสวนครัวอีกหลายชนิด ตนเชื่อว่าไม่มีใครช่วยเหลือตัวท่านได้ดีไปกว่าตัวเอง จึงอยากให้ผู้ต้องขังอดทนไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำจนต้องกลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง

ด้านตัวแทนผู้ต้องขัง กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุน ท่านรัฐมนตรีและอธิบดี จากนโยบายต่างๆที่ข่วยให้ผู้ต้องขัง ได้มีคุณภาพขีวิตที่ดีขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้พวกเรามีการฝึกวิชาชีพ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไปปรับเปลี่ยนการใช้ขีวิตหลังต้องออกกลับไปสู่สังคม การเปิดเยี่ยมญาติพวกเราดีใจเพราะไม่ได้เจอหน้ากันมานาน นอกจากนี้พวกเรายังขอสัญญาว่าเราจะประพฤติตัวเป็นคนดี ตั้งใจฝึกวิชาชีพและไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

ต่อมาคณะได้เดินชมนิทรรศการ ผลิตผลทางการเกษตรของเรือนจำ รวมทั้งการฝึกวิชาชีพของผู้ต้องขัง และเปิดร้านกาแฟคุ๊กแอนด์ค๊อฟ น่านน่ะสิ

/////