สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สิน รายคดี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวก ตามคำสั่ง ย. 159/2564 รวมมูลค่าประมาณ 127 ล้านบาท ไปคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย

ตามที่ คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นายประสิทธ์ เจียวก๊ก กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือ ความหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นโดยการโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่านสื่อสาธารณะ SMS บนโทรศัพท์มือถือและสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยเสนอรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย ได้แก่ ลงทุนซื้อคูปองทอง ลงทุนซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว ลงทุนธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนม และระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ และอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนกลับไม่ได้รับผลตอบแทนตาม  ที่ตกลงไว้ และภายหลังไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งนี้ ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 159/2564 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวก ลงวันที่ 8 กันยายน 2564  มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ ตามมาตรา 48 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และสำนักงาน ปปง. ได้เปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายระหว่างวันที่ 13 กันยายน 12 ตุลาคม 2564 นั้น

สำนักงาน ปปง. ได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 และคณะกรรมการมีมติให้สำนักงาน ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย. 159/2564 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวก ลงวันที่ 8 กันยายน 2564 จำนวน 78 รายการ (ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง, เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร, หลักทรัพย์ในบัญชีหลักทรัพย์) รวมมูลค่าประมาณ 127,739,719.88 บาท พร้อมดอกผล คืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย แทนการขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 49 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว รวมทั้งคดีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมและตัดเส้นทางทางการเงินของผู้กระทำความผิด ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและและเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ  ทั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถโทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน ปปง. 1710