พช. อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ทำกิจกรรมเอามื้อสามัคคี และติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ

วันอังคาร ที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ภายใต้การอำนวยการของ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายวิจิตร แก้วกาหลง พัฒนาการอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ผู้แทนพัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด (นางนวลจันทร์ ศรีมงคล) พร้อมด้วย นางสาวศิริวรรณ ไชยนรา นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน” และร่วมพัฒนาพื้นที่แปลงครัวเรือนต้นแบบ จำนวน ๑ แปลง ขนาด ๓ ไร่ สัดส่วน ๑:๓ ดินร่วนปนทราย แปลงของ นายณัฐพล พิมภาเรือ บ้านฝาง หมู่ที่ ๑๒ ตำบลหนองแวง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

โดยกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง ปลูกป่า ๕ ระดับ และห่มดินด้วยฟางใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อสร้างความชุ่มชื้น และสร้างจุลินทรีย์ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ถือเป็นการกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน ผ่านกิจกรรมการพัฒนาและสนับสนุนพื้นที่ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน ในโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน” ที่แสดงให้เห็นถึงการร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตามวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเดิมที่พบในทุกพื้นที่ เป็นกระบวนการทำงานเพื่อขับเคลื่อนศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ เพื่อนำเอาวิถีชีวิตดั้งเดิม วัฒนธรรมอันดีของคนไทยย้อนกลับมาปฏิบัติ ให้เกิดการปฏิบัติตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ รวมถึงสร้างความเป็นจิตอาสาพัฒนาชุมชน ให้เครือข่ายที่มีพลังและความสามัคคีและอยู่ดีมีสุข คนในครัวเรือนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ จากการเยี่ยมชมและติดตามความก้าวหน้าแปลงครัวเรือนต้นแบบพบว่า ได้ดำเนินการปล่อยพันธุ์ปลาลงในบ่อน้ำและคลองไส้ไก่ เพื่อเป็นอาหาร ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล ไม้ยืนต้น เลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่พันธุ์ไข่ วัว และปลูกข้าวสำหรับบริโภคในครัวเรือน ซึ่งได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งครัวเรือนกล่าวว่า มีความรู้สึกดีใจและภูมิใจ ที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากทำให้สมาชิกในครัวเรือนมีแหล่งอาหารไว้สำหรับบริโภค สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงการจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน และครัวเรือนอยากให้ศูนย์แห่งนี้เป็นแหล่งศึกษาดูงาน ให้ประชาชนสามารถมาเรียนรู้ และนำไปขยายผลต่อยอด เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่ของชุมชนต่อไป