สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 8 พ.ย. 64

+ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง

+ แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 63,108 ล้าน ลบ.ม. (77%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 55,106 ล้าน ลบ.ม. (77%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 17 แห่ง (บึงบอระเพ็ด หนองหารกุมภวาปี อ่างฯ แม่มอก อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน อ่างฯ ทับเสลา อ่างฯ ป่าสักชลสิทธิ์ อ่างฯ กระเสียว อ่างฯ อุบลรัตน์ อ่างฯ จุฬาภรณ์ อ่างฯลำตะคอง อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน อ่างฯ ลำนางรอง อ่างฯ ลำแซะ อ่างฯ ขุนด่านปราการชล อ่างฯ นฤบดินทรจินดา และอ่างฯ หนองปลาไหล)

+ กอนช. ติดตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการรัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานการบริหารจัดการน้ำเร่งบรรเทาและลดผลกระทบพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยภาคกลาง โดยกรมชลประทานดำเนินการ ดังนี้

 ปิดประตูเรือผักไห่เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลย้อนจากแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าคลองโผงเผงย้อนขึ้นไปที่ อ.ผักไห่ ก่อนจะเข้าทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด โดยสามารถควบคุมปริมาณน้ำเจ้าพระยาไหลเข้าคลองโผงเผงให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

 ปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันไดจากเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที

 เร่งระบายน้ำจากทุ่งเจ้าเจ็ดลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยเพิ่มการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากเดิม เพื่อเสริมศักยภาพในการเร่งระบายน้ำโดยจะสามารถสูบน้ำออกได้ประมาณ 3.80 ล้าน ลบ.ม./วัน

 วางแผนเร่งระบายน้ำเพิ่มเติมจำนวน 2 แห่ง โดยจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณประตูระบายน้ำปลายคลองไผ่พระ ต.บ้านเกาะ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และบริเวณประตูระบายน้ำดาบเงิน ต.ตะค่า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี