สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

วันที่ 4 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2564 เวลา 13:53 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอุโบสถ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวีระชัย นาคมาศ(นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถวายรายงาน พร้อมด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภริยา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอวังน้อย ประธานกรรมการมูลนิธิมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าฯ รับเสด็จฯ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมพิธีฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

วัดชูจิตธรรมาราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ในมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย เป็นทั้งพระอารามและสถานที่ศึกษาของพระสงฆ์และสามเณร จากทั่วทุกภาคของประเทศ ตามพระดำริของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (จวน อุฏฐายี มหาเถร) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาแก่พระสงฆ์และสามเณร เพื่อสร้างศาสนทายาทที่มีคุณภาพต่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทย เริ่มเปิดรับพระสงฆ์และสามเณร เข้าศึกษามาตั้งแต่ปี 2516 เปิดสอนพระปริยัติธรรม แผนกนักธรรมบาลี แผนกสามัญ ในระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา และในปีการศึกษา ๒๕๔๘ ได้เปีดสอนระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต ของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย เป็นรุ่นแรก และได้เปิดการศึกษาภาคสมทบระดับปริญญาโทสำหรับคฤหัสถ์ ชาย หญิง ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้มาสมัครเรียนเป็นจำนวนมาก โดยวิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานในส่วนนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการชั้นสูงเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและเป็นสถานที่อบรมในด้านการปฏิบัติธรรม

ปัจจุบัน มีพระราชวัชราภรณ์ (พระ-ราด-วัด-ชะ-รา-พอน) เจ้าคณะภาค 1-2-3 ธรรมยุต เป็นเจ้าอาวาส มีพระภิกษุ จำนวน 36 รูป สามเณร จำนวน 178 รูป จำพรรษาและศึกษาเล่าเรีขนในพระอารามนี้ ได้รับความสะดวกสบายตามสมควรแก่สมณะวิสัย โดยได้รับการอุปถัมภ์สนับสนุนในด้านภัตตาหาร อุปกรณ์การศึกษาจากมูลนิธิมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศาสนิกชนทั่วไป และได้รับการอุปถัมภ์ด้านการรักษาพยาบาลจากมูลนิธิสิรินธรด้วยดีตลอดมา