รัฐฯเตรียม 3 หมื่น 7 พันล้าน ช่วย SMEs เสี่ยเฮ้ง ย้ำ นายจ้างเร่งลงทะเบียนร่วมโครงการฯ ก่อนวันที่ 20 พ.ย. 64

รมว.แรงงาน ห่วงสถานประกอบการ SMEs เสียสิทธิ สั่งการกกจ. เร่งประชาสัมพันธ์นายจ้างในพื้นที่ร่วมโครงการฯ เผยใกล้ครึ่งทางลงทะเบียนไม่ถึงครึ่ง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้เปิดให้นายจ้าง/สถานประกอบการภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม และมีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ลงทะเบียนร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ผ่านเว็บไซต์ “ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th” ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 3 พ.ย. 64) มีสถานประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 64,554 ราย หรือร้อยละ 16.36 ช่วยรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย 1,174,157 คน หรือร้อยละ 29.11 ซึ่งหากเทียบจากเป้าหมายจำนวนสถานประกอบการ 394,703 ราย จำนวนลูกจ้างสัญชาติไทย 4,032,948 คน (ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม ณ วันที่ 16 ต.ค. 64) พบว่ามีนายจ้างจำนวนมากที่ยังไม่ลงทะเบียนร่วมโครงการ ล่าสุดจึงมอบหมายกรมการจัดหางาน ประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบ ทราบถึงโครงการและขั้นตอนเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว

“ผมขอย้ำให้นายจ้าง สถานประกอบการสบายใจว่า เงินอุดหนุนที่ได้รับจากโครงการฯ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี โดยท่านไม่ต้องนำเงินอุดหนุนดังกล่าวไปคิดเป็นรายได้ หรือนำไปคิดคำนวณเป็นรายจ่ายในการหักภาษี โครงการนี้รัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ตั้งใจส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่องฟื้นฟูกิจการ และสร้างความแข็งแรงในธุรกิจ SMEs ให้ดำเนินกิจการได้ต่อเนื่อง โดยเตรียมเงินอุดหนุนค่าจ้างผู้ประกันตนสัญชาติไทยจำนวน 4,032,948 คน เป็นเงิน 36,296,532,000 บาท และเงินส่งเสริมการจ้างงานใหม่ ในเดือนที่ 2 และ 3 สูงสุด 201,647 ราย เป็นเงิน 1,209,882,000 บาท รวมงบประมาณที่จะช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ทั้งสิ้น 37,506,414,000 บาท ขอเพียงท่านมีคุณสมบัติครบตามที่กำหนด และปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการฯจะได้รับเงินอุดหนุนฟรีทันที”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมอบหมายสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งข้อมูลโครงการฯ และวิธีการรับสิทธิแก่นายจ้างในพื้นที่รับผิดชอบของตนทางโทรศัพท์ เพื่อให้นายจ้างสถานประกอบการไม่พลาดการรับสิทธิ เมื่อนายจ้างได้รับการอนุมัติร่วมโครงการฯรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในเดือนพฤศจิกายน 2564 -มกราคม 2565 แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯที่เป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานข้อมูลประกันสังคม ม.33 สถานะ Active) ที่มีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 โดยที่นายจ้างจะต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ หากไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น และกรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริงไม่เกินร้อยละ 5 ทั้งนี้นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฯ

“สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม – 20 พฤศจิกายน 2564 พร้อมแนบเอกสาร ดังนี้ 1.สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร

2.กรณีมอบอำนาจแนบหนังสือมอบอำนาจ/สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการอนุมัติเข้าร่วมโครงการที่เว็บไซต์ดังกล่าวภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่ลงทะเบียน กรณีที่ไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านระบบด้วยตนเองสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว