วันอังคาร ที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 น.นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขานรับนโยบายปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการในที่ประชุมกรมการจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดให้ข้าราชการในสังกัดจังหวัดเชียงใหม่สวมใส่ผ้าไทย ทุกวันยกเว้นวันที่แต่งเครื่องแบบข้าราชการ โดยทุกวันอังคารใส่ผ้าไทยโทนสีฟ้าซึ่งเป็นสีประจำจังหวัด วันพฤหัสบดีใส่ผ้าไทยลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ
ในวันนี้ นายเจริญ สีวาโย พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางลัดดา พรหมเมือง ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน และนางสาวอัมพร ไชยโย พัฒนาการอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ กลุ่มผู้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกร ในการจำหน่ายสินค้าบริเวณตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจัดให้มีเป็นประจำทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ สัปดาห์แรกและสัปดาห์สุดท้ายของเดือน โดยในสัปดาห์นี้ มีการจัดตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะไม้ด่างที่กำลังเป็นที่นิยม จากการสอบถามและร่วมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและสำรวจตลาดพบว่า ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ผลิตผ้าไทย/ผ้าพื้นเมือง ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ร้านณัฐรดาผ้าฝ้าย จากอำเภอสันกำแพง สินค้าขายดีมากและมียอดสั่งซื้อจากลูกค้าในกลุ่มข้าราชการ จำนวนมาก
ร้านณัฐรดาผ้าฝ้าย ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP กล่าวว่า “แม้ว่าในช่วงนี้จะเกิดวิกฤตโรคโควิค 19 ที่กำลังแพร่ระบาด แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายของทางร้านแต่อย่างใด เนื่องจากทางร้านได้มีเพจ “ณัฐรดาผ้าฝ้าย” สำหรับขายสินค้าทางระบบออนไลน์ และมียอดสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นข้าราชการ ตนเองและครอบครัวต้องขอขอบคุณทางกรมการพัฒนาชุมชน ที่ได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้นำลายผ้าพระราชทานดังกล่าวไปปรับประยุกต์ใช้ เพื่อให้เหมาะกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งตนได้นำลายผ้าพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ไปออกแบบตัดเป็นเสื้อพื้นเมืองทั้งชาย และหญิง ส่งผลให้ยอดขายและยอดสั่งซื้อของทางร้านเพิ่มมากขึ้น ตนเองและครอบครัว รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เป็นล้นพ้น ที่ทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้ และเกิดการจ้างงานแก่พี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ มีการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ ครัวเรือนมีรายได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากในระดับหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ยั่งยืน