รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการกรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ติดตามและเร่งแก้ไขปัญหาพร้อมทั้งดำเนินการสอบสวนอุบัติเหตุ ดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว กรณีเรือบรรทุกตู้สินค้าชนกันกลางแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ

วันที่ 2 พ.ย.64 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย พร้อมด้วย นายพิทักษ์ วัฒนพงษ์วิศาล ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ลงพื้นที่ติดตามกรณีเรือบรรทุกสินค้าชนกันโดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเรือชนกัน บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงหน้าศาลาลาจังหวัด อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมได้นำเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 222 และเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 270 พร้อมประสานเจ้าหน้าที่จากตำรวจน้ำร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ทั้งนี้ พบเรือ ชื่อ โอ.พี.เค.3 บรรทุกตู้สินค้ามาเต็มลำ สภาพเรือจมน้ำอยู่ครึ่งลำ ตรวจสอบบริเวณกราบเรือฝั่งซ้ายถูกชนพังเสียหาย มีตู้สินค้าเสียหาย 1 ตู้ ก่อนที่จะให้ เรือศรีสมมาศ19 ดันเข้าเกยตื้น ใกล้กับองค์พระสมุทรเจดีย์ เพื่อเร่งสูบน้ำที่ไหลทะลักเข้าในตัวเรือออกจากตัวเรือโดยด่วน สุดท้ายเรือได้จมลงลักษณะนั่งแท่น พร้อมกันนี้ได้นำทุ่นเข้าล้อมเพื่อป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันจากเรือไหลออกสู่แม่น้ำ เพื่ออุดรอยรั่วต่อไป ตรวจสอบพบว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้บรรทุกสินค้าตู้ ขนาด 670.48 ตันกรอส ของ บริษัทโอ.พี.เค. โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด ห่างไปประมาณ 500 เมตร พบเรือบรรทุกตู้สินค้าชื่อ เรือ เอ็น พี ปทุมธานี ประเภทเรือ เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ บรรทุกสินค้าตู้ ขนาด 355.00 ตันกรอส จอดทอดสมออยู่กลางแม่น้ำ ตรวจสอบบริเวณหน้าเรือมีรอยบุบเสียหาย และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด สำหรับสาเหตุการเฉี่ยวชนตามคำให้การของผู้จัดการ บริษัท โอ.พี.เค.โกลบอลโลจิสติกส์ จำกัด ทราบว่า เรื่อ โอ.พี.เค.3 ออกมาจากท่าเรือ สหไทย ย่านปู่เจ้าอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อนำตู้สินค้าจำนวน 51 ตู้ ไปส่งที่ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุระหว่างสวนกัน คาดว่าเรือ เอ็น พี ปทุมธานี อาจหลุดร่องน้ำมาจนคุมเรือไม่อยู่ ก่อนที่จะพุ่งชนเรือ โอ.พี.เค.3 กลางลำ จนเกิดรอยรั่วและจมลง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ ได้ออกประกาศที่ 62/2564 เรื่อง ให้ระมัดระวังการเดินเรือ ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ออกคำสั่งให้เจ้าของเรือต้องกู้เรือให้เสร็จภายใน 3 วัน และมีคำสั่งให้งดใช้เรือลำดังกล่าวแล้วด้วย และสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า ได้เข้าบูรณาการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือเข้าร่วมแก้ไขในทันที เพื่อขจัดคราบน้ำมันให้เร็วที่สุด ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเรือขจัดคราบน้ำมัน และอุปกรณ์จัดเก็บคราบน้ำมันเพื่อเข้าระงับน้ำมัน ใช้บูมล้อมรอบตัวเรือเพื่อไม่ให้คราบน้ำมันไหลออกเป็นวงกว้าง และให้กักเรือฯ ลำดังกล่าว พร้อมนำเรือเครนและเรือบาร์จมาขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ออกจากเรือ โอ.พี.เค.3 โดยด่วนก่อนจะกู้เรือต่อไป