วันที่ 27 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น. ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม Kick off น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ประจำปี 2565 จังหวัดนครพนม ภายใต้คำขวัญ “ผู้ว่าฯ พาปลูกผัก และพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” โดยมี นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม กล่าวรายงาน ซึ่งมี นางกาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, ปลัดจังหวัดนครพนม, หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด, ผู้อำนวยการกลุ่มงานทุกกลุ่ม ภาคเอกชน สื่อมวลชน สมาคมเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด เข้าร่วมกิจกรรมฯ อย่างพร้อมเพียง
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ได้มอบเมล็ดพันธุ์ผัก/ต้นกล้าพันธุ์ผักสวนครัว ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร กระชาย มะเขือ มะละกอ พริก คะน้า ผักบุ้ง ฯลฯ แก่หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ภาคเอกชน สื่อมวลชน ให้ไปปลูกที่บ้านพักของตนเอง เพื่อขยายผลโครงการฯ และร่วมกันปลูกพืชผักสวนครัวในแปลงผัก พร้อมห่มดิน ตามกิจกรรม “ผู้ว่าฯ พาปลูกผัก และพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” เพื่อเป็นการเชิญชวน สร้างความตระหนักแก่ส่วนราชการ และภาคีการพัฒนาต่างๆ ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ได้ดำเนินการปลูกพืชผักสวนครัวในครัวเรือนไม่น้อยกว่า 10 ชนิด สร้างความมั่นคงทางอาหารมากยิ่งขึ้น
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้คำขวัญ “ผู้ว่าฯ พาปลูกผัก และพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ในวันนี้ ทุกท่านต่างได้รับทราบสถานการณ์ปัญหาอันเกิดจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม และทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดความเสียหาย เพิ่มปัญหาความยากจน กระทบต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร และคุณภาพชีวิตของประชาชน เนื่องจากประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้น การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร มาปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงถือเป็นทางรอดที่จะสร้างความมั่นคงทางอาหารระดับครัวเรือน หากแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลาย เชื่อว่าทุกครัวเรือนจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข และขอเชิญชวนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชน ร่วมปลูกพืชผักสวนครัวและพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารต่อไป
นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การจัดกิจกรรม Kick off น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ประจำปี 2565 ภายใต้คำขวัญ “ผู้ว่าฯ พาปลูกผัก และพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” จังหวัดนครพนม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในวันนี้ กรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติในระดับครัวเรือน พร้อมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยรณรงค์ให้มีการปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือนทั่วประเทศ เน้นการพึ่งตนเองและความสามัคคีของคนในชุมชน และได้มีการขยายผล สร้างวัฒนธรรมปลูกผักสวนครัวเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาสู่หมู่บ้านให้ยั่งยืน อีกทั้งสร้างรายได้ และสร้างความรัก ความสามัคคีและความเกื้อกูลของคนในชุมชน โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้กรุณาเป็นผู้นำ หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอ ยึดถือเป็นต้นแบบ “ผู้นำต้องทำก่อน” ซึ่งจังหวัดนครพนมจะรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนทุกครัวเรือน ปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย คนละ 10 ชนิด เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชนในการพึ่งตนเองต่อไป
จังหวัดนครพนม ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นดังการสนองพระราชปณิธานของพระองค์ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานเป็นหลักในการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรไทย มาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการรณรงค์ให้ทุกครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีนัยสำคัญในการสร้างหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มั่นคงและปลอดภัยได้ด้วยตนเองก่อให้เกิดความมั่นคงระดับครัวเรือนและชุมชนอย่างยั่งยืน จังหวัดนครพนม ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงาน
โดยบูรณาการ “โครงการนครพนมสร้างสุข บำบัดทุกข์ด้วยชุมชนท้องถิ่น” ซึ่งมีกระบวนการดำเนินงาน ได้แก่ มีฐานข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน ออกแบบงาน กำหนดเป้าหมาย (ตัวชี้วัดความสำเร็จ) จัดทำ MOU 21 หน่วยงาน (ภาคีการพัฒนา) ใช้ระบบสารสนเทศสื่อสาร สร้างการรับรู้ และรณรงค์ทุกช่องทาง โดยผ่านกลไก ได้แก่ ทีมสร้างสุขชุมชน 3 ยกกำลัง 3 อาสาสมัครรักษ์โลก (อถล.) เครือข่ายผู้นำการเปลี่ยนแปลง และหน่วยงาน 7 ภาคี เพื่อขยายผลสู่ “ทุกครัวเรือนคือคลังอาหาร ทุกหมู่บ้านคือศูนย์แบ่งปัน”
จากการดำเนินงานขับเคลื่อนการปลูกพืชผักสวนครัว จังหวัดนครพนมได้รับโล่รางวัลและประกาศเกียรติบัตรหน่วยงาน/องค์กรที่ร่วมขับเคลื่อนการปลูกผักดีเด่นระดับเขตตรวจ ได้แก่
1) ประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาทม
2) ประเภทบ้านพักข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้แก่ นางสาวณิชาทิพย์ อุบลบาลไชโรจน์ พัฒนาการอำเภอนาทม
3) และจังหวัดนครพนม ได้รับประกาศเกียรติบัตรรางวัลชนะเลิศหน่วยงานต้นแบบการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2564 (CDD Policy Award) ระดับประเทศ
ผลสำเร็จการขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริฯ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม การพัฒนาสู่ความยั่งยืน ดังนี้
1) ครัวเรือนปลูกผักสวนครัว จำนวน 155,776 ครัวเรือน คิดเป็น 100%
2) มีศูนย์โฮมฮัก (กองทุนเมล็ดพันธุ์) จำนวน 787 กองทุน คิดเป็น 100%
3) ครัวชุมชน/ถนนกินได้ จำนวน 432 แห่ง
4) ครัวเรือนมีถังขยะเปียก จำนวน 148,267 ครัวเรือน คิดเป็น 95.2%
5) ครัวเรือนมีการคัดแยกขยะต้นทาง จำนวน 136,760 ครัวเรือน
6) ธนาคารขยะ จำนวน 417 แห่ง
7) กองทุนสวัสดิการ จำนวน 847 กองทุน
8) วัดประชารัฐสร้างสุข จำนวน 104 แห่ง
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และการเว้นระยะห่างตามมาตรการควบคุมการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายในท้องที่จังหวัดนครพนม