กทม. ย้ำ ตลาดและสถานประกอบการต้องประเมินตนเองผ่าน “Thai Stop COVID Plus”

(26 ต.ค.64) ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) : พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 55/2564 โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผ่านระบบทางไกล

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมพร้อมขับเคลื่อนนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก โดยหัวใจหลักของการเปิดเมือง ทุกภาคส่วนต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ยังพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มคลัสเตอร์ตลาด ไปสู่ชุมชน และโรงเรียน ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับการเฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 จึงมอบหมายให้สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตลาด และผู้ประกอบกิจการ ให้ประเมินตัวเองผ่านแพลตฟอร์ม “Thai Stop COVID Plus” ซึ่งจัดทำโดยกรมอนามัย เพื่อประเมินตามมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโควิด-19 โดยตลาด และสถานประกอบการแต่ละแห่งจะได้ปักหมุดในแผนที่ประเทศไทยบนแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ ซึ่งประชาชนสามารถค้นหาและใช้บริการได้อย่างมั่นใจ เมื่อปฏิบัติตามมาตรฐานของสถานประกอบการนั้น ๆ แล้ว จะได้รับใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Ecertificate) เพื่อรับรองว่าสถานประกอบการของตนผ่านมาตรฐานกรมอนามัย

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้สถานประกอบการ กิจการ สถานบริการสาธารณะที่ให้บริการประชาชน โดยเฉพาะตลาดที่มีประชาชนใช้บริการจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก ยังคงต้องคุมเข้มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการจัดให้มีจุดคัดกรองเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสที่มีการสัมผัสร่วมที่เป็นจุดเสี่ยง เช่น ลูกบิดประตู ปุ่มกดในลิฟต์ราวบันได ลดความแออัดของผู้ใช้บริการ รวมทั้งประชาชนยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมชนหนาแน่น หรือมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ตลาด เป็นต้น และต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ และรักษาระยะห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร ให้เป็นปกตินิสัยอยู่เสมอ
————