สืบสานแนวพระราชดำริ รวมพลังเอามื้อสามัคคี สร้างฐานเรียนรู้ สู่การขยายผล “อาณาจักรโคก หนอง นา” อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี

วันที่ 24 ตุลาคม 2564 ภายใต้การอำนวยการของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดยนายวิริยะ เสาทอง พัฒนาการอำเภอเดชอุดม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเดชอุดม ทีมครูพาทำ และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ร่วมประชุมและซักซ้อมความเข้าใจ การฝึกอบรมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting ณ ศูนย์เรียนรู้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” แปลงระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) ตำบลบัวงาม ตำบลคำครั่ง และตำบลกุดประทาย โดยมีคณะวิทยากรจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดชลบุรี ได้เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกอบรมฯ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย 8 รุ่น ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 157 คน โดยกำหนดฝึกอบรมฯ ในระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2564

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะฯ ได้ร่วมกับนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) จัดเตรียมสถานที่สำหรับใช้ฝึกอบรมในระดับตำบล (CLM) ทั้ง 3 แห่ง โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดทำสื่อการเรียนรู้ประจำฐาน จำนวน 9 ฐาน และป้ายต่าง ๆ สร้างห้องน้ำ เทพื้นบริเวณฐานเรียนรู้ จัดทำเสาธงเพื่อใช้สำหรับการเข้าแถวเคารพธงชาติ และเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้สาธิตในกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในการฝึกอบรมฯ เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานี นั้น มีกลุ่มเป้าหมายตัวแทนครัวเรือนเข้ารับการฝึกอบรมฯ มากที่สุดในประเทศไทย ถึง 4,044 แปลง จนได้รับการขนานนามว่า “อาณาจักร โคก หนอง นา” ดังนั้น จึงต้องเร่งรัดและขยายผลการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เสร็จเรียบร้อยทันการ และเป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

โอกาสนี้ นายวิริยะ เสาทอง พัฒนาการอำเภอเดชอุดม ได้พบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเดชอุดม ทีมครูพาทำ และนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบในการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการฝึกอบรมตามโครงการฯ พร้อมได้ชี้แจงกำหนดการเรียนรู้ กฎกติกา ในการฝึกอบรม รวมถึงรายละเอียดตารางฝึกอบรมออนไลน์ และการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรมประจำจุดเรียนรู้ พร้อมนี้ ได้กล่าวกับเจ้าของแปลงว่า “ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เอื้อเฟื้อสถานที่ในการดำเนินงานโครงการฯ ตลอดจนให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา ให้กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้มาฝึกอบรม ให้สามารถเป็นแกนนำขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา ในพื้นที่ ให้เกิดกระบวนการในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นการสร้างทางรอดให้กับชุมชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”