กรมทางหลวง ติดตั้งสะพานเบลีย์ ทล. 2065 ช่วง กม.ที่ 33+600 – 33+707 จ.ขอนแก่น แล้วเสร็จ ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงวันที่ 23 ต.ค. 64 พบถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 14 จังหวัด ผ่านไม่ได้ 18 แห่ง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวง โดย ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 2 (ขอนแก่น) และแขวงทางหลวงขอนแก่นที่ 3 (บ้านไผ่) ได้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็กชั่วคราว) ความยาว 107 เมตร บนทางหลวงหมายเลข 2065 พล-ลำชี กม.ที่ 33+600 – 33+707 พื้นที่ ต.ท่านางแนว อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น แล้วเสร็จและได้เปิดให้สัญจรได้แล้วเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.2564) เวลา 16.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวก และบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ใช้เส้นทาง ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวหลังเหตุการณ์คลี่คลายจะเข้าสำรวจความเสียหายโครงสร้างของถนนอย่างละเอียด เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมโดยเบื้องต้นวางไว้ 3 แนวทาง ได้แก่ 1.เสนอให้สร้างสะพานบก 2.เพิ่มขนาดท่อเหลี่ยมให้ใหญ่และกว้างขึ้น เพื่อรองรับปริมาณน้ำได้มากขึ้น และ 3.ยกระดับความสูงของคันทางเพิ่มอีก 1 เมตร เนื่องจากขณะนี้คันทางมีระดับค่อนข้างต่ำมาก เมื่อฝนตกเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมได้ง่าย อย่างไรก็ตามทุกแนวทางต้องหารือร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้เกิดรูปแบบดำเนินการที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

พร้อมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยขณะนี้พบว่า สถานการณ์ประจำวันที่ 23 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. ทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์และสะพานชำรุด จำนวน 14 จังหวัด ( 48 สายทาง 77 แห่ง) โดยการจราจรผ่านไม่ได้ 18 แห่ง ดังนี้

◾จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล. 2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 ซม.

◾จ.มหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล. 213 มหาสารคาม – หนองขอม กม.ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอมยาง) ระดับน้ำสูง 225 ซม.

◾จ.นครราชสีมา (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล. 202 ดอนตะหนิน – ตลาดไทร ช่วง กม.ที่ 93+611 ระดับน้ำสูง 20-45 ซม.

◾จ.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+610 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่เพื่อมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 30-40 ซม.
– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนแคราย) ระดับน้ำสูง 20-25 ซม.
– ทล. 307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 75 ซม.

◾จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)

– ทล.32 อ่างทอง – ไชโย ช่วง กม.ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 135 ซม.
– ทล.33 นาคู – ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 ซม.

◾จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง)
– ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 165 ซม.
– ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 90 ซม.
– ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195ซม.
– ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 195 ซม.

◾จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
– ทล. 33 สุพรรณบุรี – นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 100 ซม.
– ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี กม.ที่ 49+673 – กม.ที่ 49+750 (สะพานสาลี) ระดับน้ำสูง 35-40 ซม.
– ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 175 ซม.
– ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี กม.ที่ 71+230 – กม.ที่ 71+620 (ช่องทางคู่ขนานซ้ายขวาทาง) ระดับน้ำสูง 55 ซม.
– ทล. 3557 ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี กม.ที่ 0+700 – กม.ที่ 0+726 (ด้านซ้ายทาง) ระดับน้ำสูง 55 ซม.

◾จ.นครปฐม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล. 338 พุทธมณฑลสาย 4 – นครชัยศรี ช่วง กม.ที่ 24+800 -25+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม.

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1

””””””””””””””””””””””””’