+ บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้
+ แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 60,232 ล้าน ลบ.ม. (73%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 53,122 ล้าน ลบ.ม. (74%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 17 แห่ง (บึงบอระเพ็ด หนองหารกุมภวาปี อ่างฯ แม่มอก อ่างฯ แควน้อยบำรุงแดน อ่างฯ ทับเสลา อ่างฯ ป่าสักชลสิทธิ์ อ่างฯ กระเสียว อ่างฯ อุบลรัตน์ อ่างฯ จุฬาภรณ์ อ่างฯลำตะคอง อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน อ่างฯ ลำนางรอง อ่างฯ ลำแซะ อ่างฯ ขุนด่านปราการชล อ่างฯ นฤบดินทรจินดา และอ่างฯ หนองปลาไหล)
+ กอนช. ติดตามสภาพอากาศในช่วง 1-2 วันนี้ ยังคงมีฝนตกเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เน้นย้ำหน่วยงานติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วม สรุปดังนี้
– ลุ่มน้ำชี – มูล สถานการณ์น้ำท่วมขัง จ.มหาสารคาม โดยในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย ลดลงอย่างต่อเนื่อง อ.กันทรวิชัย และอ.เมือง ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและลดลง มวลน้ำดังกล่าวจะไหลหลากเข้าสู่ จ.ร้อยเอ็ด ส่วน จ.นครราชสีมา สถานการณ์น้ำตั้งแต่ อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ และบางพื้นที่ของ อ.เมือง ขณะนี้มวลน้ำจากลำตะคองจะไหลหลากไปยัง อ.โนนสูง อ.เฉลิมพระเกียรติ และจะไปถึง อ.พิมาย ประมาณวันที่ 25 ต.ค.64 สำหรับ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากมวลน้ำจาก จ.ยโสธร ไหลหลากมาสมทบบริเวณแม่น้ำมูล ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำมูล อ.เขื่องใน และ อ.เมือง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
– ลุ่มน้ำเจ้าพระยา – ป่าสัก ระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ จ.นครสวรรค์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง จ.ชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,766 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี และอ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับลดการระบายน้ำในอัตรา 570 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก บริเวณ จ.ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเขื่อนพระราม 6 ได้ปรับการระบายน้ำในอัตรา 719 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดปริมาณน้ำไหลเข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง
– ลุ่มน้ำท่าจีน สถานการณ์น้ำท่วมขัง จ.สุพรรณบุรี ในพื้นที่ 9 อำเภอ มีแนวโน้มลดลง คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 สัปดาห์ ส่วน จ.นครปฐม สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี และอ.สามพราน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับน้ำทะเลหนุนส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำทำให้ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น

