รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งการหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน เดินหน้าพัฒนาระบบเก็บเงิน M–Flow ให้ลื่นไหล ผ่านทางง่าย ชำระเงินสะดวก ไม่กระทบผู้ใช้บริการ

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารสโมสรและหอประชุมกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายกับผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ระหว่าง กรมทางหลวง โดย นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กรมการขนส่งทางบก โดย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดย นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow โดยมีผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และสื่อมวลชนร่วมงาน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางบนท้องถนน โดยเฉพาะบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย จึงได้มอบหมายให้กรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมกันศึกษา พัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้จัดเก็บค่าผ่านทาง ด้วยการใช้ระบบ Video Tolling ตรวจจับป้ายทะเบียน ทำให้รถสามารถขับผ่านด่านเก็บเงินได้โดยไม่ต้องชะลอ ช่วยระบายรถบริเวณหน้าด่านได้เร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่าหรือประมาณ 2,000 คัน/ช่อง/ชม. เป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านและยังช่วยให้ผู้ใช้ทางสามารถใช้ความเร็วต่อเนื่อง 120 กม./ชม. ได้ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมบูรณาการการทำงานร่วมกันให้เป็นรูปธรรมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ทำให้สามารถใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษได้ทุกเส้นทาง สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง กรมทางหลวง กรมการขนส่งทางบก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow โดยมีขอบเขตการดำเนินงานร่วมกัน ได้แก่ การพัฒนาและปรับปรุงระบบชำระภาษีรถยนต์ประจำปีของกรมการขนส่งทางบก โดยการจัดเตรียมช่องทางในการตรวจสอบยอดค้างชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และปรับปรุงโปรแกรมชำระภาษีของกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้สามารถชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ค้างชำระได้ การรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flowที่กรมการขนส่งทางบกในขั้นตอนการต่อภาษีรถประจำปี แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. กำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497 เพื่อให้สามารถรับชำระค่าธรรมเนียม ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ที่ค้างชำระ โดยกรมการขนส่งทางบกจะเป็นผู้เก็บรักษาและนำส่งเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง ค่าเสียหาย และค่าปรับของระบบ M-Flow ให้กับกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย การบังคับใช้กฏหมาย กับผู้ที่หลีกเลี่ยงไปชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางของระบบ M-Flow โดยหากมีผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทาง หรือผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกแล้วฝ่าฝืนขับรถเข้าไปในช่องทาง M-Flow กรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะจัดส่งข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำผิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดในกฎหมายต่อไป

ส่วนรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง จะเป็นการผ่านก่อนจ่ายทีหลัง โดยเจ้าของรถจะต้องลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกผ่านทาง www.mflowthai.com หรือ Mobile Application : Mflow หรือที่จุดบริการ เพื่อชำระค่าผ่านทางผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การหักบัญชีธนาคาร และการตัดชำระผ่านระบบ Pre-Paidที่สามารถเลือกชำระเป็นรายครั้งหรือตามรอบบิล ให้กับกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยโดยในช่วงแรกกรมทางหลวงได้ออกโปรโมชั่นใช้ฟรี 2 ครั้ง จำนวน 1 แสนสิทธิ์ เพื่อเป็นการจูงใจผู้ใช้รถใช้ถนนให้มาทดลองใช้บริการ โดยจากจำนวนผู้ใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย 9 ในปัจจุบันที่มีผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 300,000 เที่ยว/วัน กรมทางหลวงจึงตั้งเป้าว่าจะมีผู้สมัครเข้าทดลองใช้บริการในช่วงแรกประมาณ 100,000 ราย

สำหรับแผนการดำเนินงานติดตั้งระบบ M-Flow ในระยะแรก จะเริ่มดำเนินการนำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 บริเวณด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1และด่านธัญบุรี 2 และทางพิเศษฉลองรัช ที่บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 โดยบริเวณด่านฯ จะกำหนดให้มีช่องทางวิ่งเฉพาะสำหรับระบบ M-Flow แยกออกจากช่องเก็บเงินสดและช่องเก็บเงินด้วยบัตรอัตโนมัติ (M-Pass/Easy Pass) ซึ่งจะยังคงเปิดให้ใช้งานได้เพียงบางส่วนควบคู่ไปกับช่องทางระบบM-Flow เพื่อสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจกับประชาชนผู้ใช้ทาง โดยกรมทางหลวงจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก เพื่อร่วมทดลองใช้บริการและร่วมทดสอบการทำงานของระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ซึ่งจะเปิดในวันที่ 29 ตุลาคม 2564 นี้ ส่วนทางพิเศษฉลองรัชบริเวณด่านจตุโชติด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะเปิดทดลองใช้บริการและร่วมทดสอบระบบเสมือนจริง (Soft Opening) ในช่วงเดือนมีนาคม 2565 โดยหลังจากเปิดให้ทดลองใช้เสมือนจริงบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 แล้ว กรมทางหลวงจะมีการประเมินผลทั้งความเข้าใจในระบบ ความเสถียรของระบบ และพฤติกรรมของผู้ใช้ทาง เพื่อนำมาปรับปรุงก่อนเปิดให้บริการจริงต่อไปความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญ ที่จะช่วยเติมเต็มศักยภาพในการให้บริการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น M-Flow ให้สำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษ ให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตอบโจทย์การเดินทางในสังคมยุคดิจิทัลที่แข่งขันกันด้วยเวลา พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวต่อไปสู่ความมั่นคง