นายก มอบ รมว.สุชาติ เยี่ยมศูนย์แยกกักตัวรักษาในสถานประกอบการ (FAI) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะของบริษัท นิสสัน ประเทศไทย จ.สมุทรปราการ

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์แยกกักตัวรักษาในสถานประกอบการ (Factory Accommodation Isolation : FAI) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ ณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายวันชัย คงเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย มี นายอิชาโอะ เซกิกุจิ ประธานกลุ่มนิสสัน ประเทศไทย นายอัครพล แก้วพินิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิต พร้อมเจ้าหน้าที่พนักงานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ

นายสุชาติ กล่าวว่า เนื่องจากท่านนายกรัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญจึงมอบหมายให้ผมมาตรวจเยี่ยมศูนย์แยกรักษาในสถานประกอบการ (FAI) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะของบริษัทฯ ในวันนี้ ซึ่งท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและขอขอบคุณบริษัท นิสสันมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดสมุทรปราการเป็นอย่างยิ่ง ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลภายใต้การนำของท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงสั่งการให้กระทรวงแรงงานดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดฯ โดยมีมาตรการสำคัญ ดังนี้ 1) การตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุก ภายใต้โครงการแรงงาน…เราสู้ด้วยกัน จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ สนามกีฬาไทย – ญี่ปุ่น ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสาคร ภูเก็ต ระยอง พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สงขลา และสระบุรี ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 31 กรกฎาคม 2564 ตรวจคัดกรองแล้ว 526,657 ราย พบผู้ติดเชื้อ 23,705 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.50 2) การฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่สีแดง จำนวนกว่า 10 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 15 ตุลาคม 2564 มีผู้ประกันตนฉีดวัคซีนแล้ว 2,937,313 ราย เป็นของจังหวัดสมุทรปราการ 195,560 ราย 3) การเยียวยานายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 29 จังหวัด รวม 12,130,175 ราย เป็นเงิน 99,448,275,000 บาท ผลการดำเนินงานโครงการเยียวยาในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ รวม 583,848 ราย เป็นเงิน 56,222,386,000 บาท

พร้อมนี้กระทรวงแรงงานได้ริเริ่มดำเนินโครงการ Factory Sandbox โดยใช้แนวคิดในการจัดการโครงสร้างและกระบวนการในลักษณะ “เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข”เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่แรงงานและสร้างความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจจากภาคการผลิตแก่นักลงทุนในสถานประกอบกิจการภาคการผลิตส่งออกขนาดใหญ่ในพื้นที่ 11 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ ชลบุรี นนทบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ระยอง สระบุรี ปราจีนบุรี และลพบุรี โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยระยะแรก มีเป้าหมายดำเนินการใน 4 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี ในสถานประกอบการที่มีผู้ประกันตน 500 คนขึ้นไป ภายใต้สโลแกน “ตรวจ รักษา ควบคุม ดูแล” เริ่ม Kick off พร้อมกัน 4 จังหวัดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ผลการดำเนินโครงการในระยะแรก ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ตรวจคัดกรองโควิดให้แก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการจำนวน 118,339 คน คิดเป็นร้อยละ 47.34 จากเป้าหมาย 250,000 คน และฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ จำนวน 52,518 คน คิดเป็นร้อยละ 52.52 จากเป้าหมาย 100,000 คน

สำหรับจังหวัดสมุทรปราการจะอยู่ในแผนการดำเนิน ระยะที่ 2 วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ผมได้มาตรวจเยี่ยมโครงการศูนย์แยกกักตัวรักษาในสถานประกอบการ (Factory Accommodation Isolation : FAI) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะของกลุ่มบริษัทนิสสันประเทศไทย

“ผมขอชื่นชมและขอบคุณบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ที่ร่วมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุขของประเทศให้ไปได้ด้วยดี ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนปลอดภัยจากโควิด-19 และเราจะก้าวไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

\