รมว.กษ.ลงพท.ติดตามงานบริหารจัดการน้ำ สร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อชาวสงขลา

รมว.กษ.ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ รับฟังปัญหาและร่วมวางแนวทางแก้ไขเน้นบรรเทาอุทกภัยและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้ได้มากที่สุด

วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำโครงการอ่างเก็บน้ำพรุพลีควาย อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา โดยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง นายเดช  เล็กวิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 16 และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

ในการนี้ ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีพี่น้องประชาชนทำการเกษตรครบถ้วน และยังมีปัญหาในด้านต่างๆ ที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันปรับปรุงพัฒนา ในนามของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปัญหาหนึ่งที่สำคัญของสงขลาคือปัญหาอุทกภัย อำเภอเมืองหาดใหญ่ ทั้งนี้ จึงเร่งรัดกำกับการดำเนินงานให้มีความรุดหน้ามากที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายอันเกิดจากอุทกภัย และที่สำคัญต้องมีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหลังจากปัญหาอุทกภัยจากไป

 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำพรุพลีควาย ตั้งอยู่ที่ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา บริเวณหมู่ที่ 4 บ้านพรุพลีควาย ตำบลพิจิตร อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เป็นอ่างเก็บน้ำความจุ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 187 ไร่ (ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1.05 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 70% ของความจุอ่างฯ) พร้อมด้วยประตูระบายน้ำ ขนาดกว้าง 6 เมตร จำนวน 3 ช่อง 1 แห่ง และระบบประปาความยาว 21.355 กม.ในเขตตำบลพิจิตร และตำบลนาหม่อม มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุน สำหรับอุปโภค-บริโภค ราษฎรประมาณ 750 ครัวเรือน และช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรม ประมาณ 500 ไร่ พร้อมบรรเทาอุทกภัยบริเวณอำเภอนาหม่อมและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและนันทนาการอีกด้วย

ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาแหล่งน้ำตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง กรมชลประทานได้รวบรวมความต้องการจากผู้นำท้องถิ่น เพื่อพัฒนาพื้นที่ โดยมีแผนปรับปรุงอ่างเก็บน้ำพรุพลีควาย 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงถนนลาดยาง พร้อมไฟส่องสว่าง 2. ปรับปรุงท่อส่งน้ำ พร้อมอาคารประกอบ 3. ปรับปรุงภูมิทัศน์ 4. ก่อสร้างรางระบายน้ำคอนกรีต 5. ซ่อมแซมหินก่อหินเรียง รวมงบประมาณ 63 ล้านบาท


นอกจากนี้ ยังมีแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลจะนะ  อำเภอจะนะ โดยมีแผนบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ลุ่มน้ำย่อยคลองนาทวี ด้วยการปรับปรุงคลองส่งน้ำคลองเกาะทาก ซึ่งจะมีพื้นที่การเกษตรประมาณ 600 ไร่ มีเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 120 ครัวเรือน การปรับปรุงคลองส่งน้ำคลองปาม  พื้นที่การเกษตรประมาณ 1,000 ไร่ มีเกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 290 ครัวเรือน และโครงการแก้มลิงนาหอยโข่ง พื้นที่การเกษตรประมาณ 1,200 ไร่ มีเกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 400 ครัวเรือน

สำหรับพื้นที่บริเวณบ้านน้ำลัด ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา ที่เคยได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมขัง จากการเกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน และเนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นที่รับน้ำโดยธรรมชาติ ซึ่งอยู่บริเวณตอนกลางของคลองสะเดาก่อนไหลลงสู่คลองอู่ตะเภา สภาพคลองมีลักษณะคดเคี้ยว และตื้นเขิน ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากคลองแม่แมะ คลองห้วยคูและคลองตาลี ไหลมาเติม จึงทำให้คลองสะเดาไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ กรมชลประทาน จึงเสนอแนวทางให้ดำเนินการขุดขยายคลองสะเดาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว