กรมเจ้าท่า บูรณาการกรมชลประทาน จังหวัดลพบุรี ขุดลอก ฟื้นฟูสภาพคลองลำสนธิ สร้างต้นแบบแก้ไขปัญหาน้ำท่วม “คลองลำสนธิโมเดล”

ตามนโยบายและคำสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการฟื้นฟูภายหลังอุทกภัยผ่านพ้น ในวันที่ 13 ตุลาคม 2564 นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยงานจังหวัดลพบุรี โดยนายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ องค์การบริการส่วนตำบลลำสนธิ ตำบลหนองรี อำเภอลำสนธิ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานชลประทานที่ 10 มณฑลทหารบกที่ 13 ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการขุดลอก และการบริหารจัดการดินที่ได้จากการขุดลอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและการกักเก็บน้ำในคลองลำสนธิให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุมสำนักงานชลประทาน 10 จังหวัดลพบุรี

ปัญหาการเกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตอำเภอลำสนธิ และอำเภอใกล้เคียง เกิดจากประสิทธิภาพในการระบายน้ำในคลองลำสนธิ ตั้งแต่บริเวณใต้อ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ตำบลกุดตาเพชร อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ถึงบริเวณที่คลองลำสนธิบรรจบกับแม่น้ำป่าสัก ณ วัดสิงหาราม ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ความยาวประมาณ 61 กิโลเมตร คลองมีสภาพคดเคี้ยวและตื้นเขิน มีต้นไม้และวัชพืชขึ้นปกคลุมหนาแน่นทั้ง 2 ฝั่งคลอง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำในคลองไหลไม่สะดวก เมื่อมีฝนตกหนักในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง มวลน้ำจะไหลลงคลอง และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและที่สาธารณะเป็นประจำ

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมเจ้าท่า กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดลพบุรี ดำเนินการขุดลอกคลองลำสนธิ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและกักเก็บน้ำ ซึ่งในส่วนของกรมเจ้าท่า จะดำเนินการขุดลอกและฟื้นฟูสภาพคลองลำสนธิ ในเบื้องต้นจะดำเนินการเองเพื่อเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหา (คลองลำสนธิโมเดล)ในปีงบประมาณ 2565 เนื่องจากในพื้นที่มีปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการดิน เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งในอนาคตสามารถพัฒนาเพิ่มเติมเป็นแหล่งน้ำ และแหล่งท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในการช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย อย่างยั่งยืนต่อไป