กรมทางหลวง อัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2564พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ จำนวน 11 จังหวัด สัญจรไม่ได้ 19 แห่งเร่งสำรวจและประเมินความเสียหายเส้นทาง ลุยฟื้นฟูซ่อมแซมต่อเนื่อง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และปลอดภัย ตลอดจนป้องกันเหตุแก่ประชาชน และผู้ใช้รถในช่วงฤดูฝนนี้ โดยให้ติดตามเฝ้าระวังการเกิดอุทกภัย ติดตามการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากเกิดภัยพิบัติให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งแก้ไขให้การจราจรใช้การได้ในเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งสั่งการให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ วัสดุและชิ้นส่วนสะพานเบลีย์ เครื่องจักร/ยานพาหนะ เตรียมพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานที่ในกรณีถนนหรือสะพานขาด นอกจากนี้ ยังกำชับให้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และตั้งจุดให้บริการประชาชน จัดรถ Mobile Service ช่วยเหลือประชาชนกรณีรถเสียบนทางหลวง จัดรถบรรทุกไว้บริการรับส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงให้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะปกติตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 11 จังหวัด ( 25 สายทาง 53 แห่ง) โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่

1) จ.ขอนแก่น

2) จ.มหาสารคาม

3) จ.นนทบุรี

4) จ.อ่างทอง

5) จ.พระนครศรีอยุธยา

6) จ.สุพรรณบุรี

7)นครสวรรค์

8) จ.นครปฐม

9) จ.ระนอง

10) จ.ชุมพร

11) จ.นครสวรรค์

ซึ่งมีการจราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง ดังนี้

◾️1. จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)

– ทล. 2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 250 ซม.

– ทล. 12 ขอนแก่น – พรหมนิมิตร ช่วง กม.ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 40 ซม.

– ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์

– ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์

– ทล. 2131 บ้านสะอาด – เหล่านางงาม ช่วง กม.ที่ 6+700 – 7+200 ระดับน้ำสูง 20-30 ซม. ใช้ทางเลี่ยงทางหลวง
หมายเลข 2062 บ้านทุ่ม-มัญจาคีรี กม.0 ไปออกทางหลวงหมายเลข 12 บ้านฝาง-ขอนแก่น กม.540 เข้าเมืองขอนแก่น

◾️2. จ.มหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)

– ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ช่วง กม.5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ลำน้ำชีล้นตลิ่ง มีระดับน้ำสูงขึ้น ผนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะ ทำการปิดทางลอดอุโมงค์ใต้สะพาน

◾️3. จ.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)

– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับ
บางใหญ่ที่ กม.18+500 แทน

– ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพาน
คลองบางไผ่ที่ กม.16+600 แทน

◾️4. จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง)

– ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 ซม.

– ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.) ระดับน้ำสูง 90 ซม.

– ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 10 ซม.

– ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (สี่แยกไฟแดงป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 ซม.

◾️ 5. จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)

– ทล. 347 บางกระสั้น – บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 45 ซม.
ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน

– ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ข้างหน้าแทน

– ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ข้างหน้าแทน

◾️ 6 จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)

– ทล. 33 สุพรรณบุรี – นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ข้างหน้าแทน

– ทล. 340 สาลี – สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 130 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ข้างหน้าแทน

◾️ 7. จ.นครสวรรค์ (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)

– ทล. 1 บ้านหว้า – วังไผ่ ช่วง กม.ที่ 339+600 (จุดกลับรถใต้สะพานเดชาติวงศ์) ระดับน้ำสูง 25 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ข้างหน้าแทน

◾️ 8. จ.ตราด (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)

– ทล. 3494 ท่าประดู่ – ถางเกลือ ช่วง กม.ที่ 18+490 – 18+570 ระดับน้ำสูง 80 ซม.

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1