พระมาโปรด! เจ้าคุณเสียดายแดด ลงพื้นที่ประเมินครูพาทำ “โคก หนอง นา พช.” ตามหลัก “บวร” อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี พร้อมประกาศชัด “แก้น้ำท่วม ด้วยโคก หนอง นา พาคนขยัน มีอยู่มีกิน”

วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ภายใต้การอำนวยการของ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดย นายถาวร แสนเพ็ง พัฒนาการอำเภอทุ่งศรีอุดม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” โดยประเมินผลการปฏิบัติงานของนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ทั้ง 4 ตำบล รวม 40 คน เพื่อนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และรับฟังแนวคิด ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการประเมิน ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะที่ปรึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” กรมการพัฒนาชุมชน หรือสมญานามว่า “เจ้าคุณเสียดายแดด” พระนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนช่วยเหลือสนับสนุนและขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนตลอดมา ตามหลัก “บวร”

สำหรับกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ เจ้าคุณพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ได้ให้ความกรุณาเป็นประธานคณะกรรมการประเมินฯ และทีมครูพาทำจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี ร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ณ แปลงพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (Community Lab Model for quality of life : CLM) นางมุกดา อินทร์แก้ว ตำบลนาห่อม, คณะกรรมการหมู่บ้านเบญจ์ ตำบลหนองอ้ม, นายคำพา มณีสังข์ และนางศุกขี สายวงค์ ตำบลโคกชำแระ โดยมีครัวเรือนต้นแบบฯ ในพื้นที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำข้อชี้แนะไปปรับใช้เพื่อพัฒนาต่อยอดศูนย์เรียนรู้ต่อไป

โอกาสนี้ เจ้าคุณพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม หรือ “เจ้าคุณเสียดายแดด” ได้เมตตาแสดงปาฐกถาธรรมและกล่าวอำนวยอวยพรแด่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมว่า “วันนี้ได้มาเยี่ยม นพต.ทุ่งศรีอุดม ในแปลงโคก หนอง นา ระดับตำบล หรือ CLM ที่อำเภอทุ่งศรีอุดม ซึ่งห่างจากวัดป่าศรีแสงธรรม อำเภอโขงเจียม ประมาณ 150 กม. ต้องออกเดินทางแต่เช้าไปฉันภัตตาหาร ที่ในเมือง ตอนเป็นพระครูก็ทำงานอยู่แต่ในวัด พอตอนนี้เลื่อนมาเป็นเจ้าคุณต้องออกมาทำงานกลางทุ่งนา ดีที่วันนี้แดดไม่ร้อน เดินตรวจแปลงทั้งวันพอเป็นกำลังใจเพราะทุกคนเคยไปอบรมที่วัดป่าศรีแสงธรรม มาแล้ว เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน และได้กลับมาทำโคก หนอง นา ที่บ้านของตนเอง”

“ที่อาตมาสนใจและให้ความสำคัญ กับอำเภอทุ่งศรีอุดม ก็เนื่องจากว่า ตอนที่อบรมตลอด 5 วัน 4 คืน ที่วัดป่าศรีแสงธรรม ทุกคนมีความตั้งใจ สนใจกันมาก จึงอยากมาดูว่าเวลาทำงานจริง ๆ แล้วจะได้ผลอย่างไร ซึ่งก็เป็นไปเหมือนมาอบรมมา วันนี้มีผลผลิตมากมายให้ชื่นชมและยินดี มีผลงานเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ถือเป็นการประกาศว่า ถ้ามีโคก หนอง นา แล้วคนขยันอย่างนี้จะมีอยู่มีกินตลอดไป”

ระหว่างเดินทางกลับวัดป่าศรีแสงธรรม เจ้าคุณพระปัญญาวชิรโมลี ยังได้เมตตาถ่ายทอดแนวคิดเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ว่า “จังหวัดอุบลราชธานี มีแม่น้ำเข้าสองสาย ออกหนึ่งสาย จะปีไหนน้ำก็ท่วม ถ้านำแนวคิดการจัดการน้ำแบบโคก หนอง นา คือ ลดน้ำเข้าให้น้อยลงด้วยการทำหลุมขนมครกใหญ่ รองรับน้ำ แล้วดึงคลองไส้ไก่กระจายออกไป หรือทำบายพาสแต่อาจต้องใช้งบประมาณพอสมควร ส่วนอีกวิธีคือทำทางน้ำออกให้เร็วเท่ากับน้ำเข้าด้วยหลุมขนมครกใหญ่ หรือแก้มลิงกระจายให้ทั่วทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก รวมถึงพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสม โดยลงทุนทีเดียวดีกว่าเอางบประมาณมาแก้ปัญหาทุกปี กลายเป็นที่น้ำท่วมซ้ำซาก จึงขอฝากเป็นข้อคิดและเสนอแนะให้เจ้าหน้าที่และภาครัฐ ได้มีความจริงใจและให้ความช่วยแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ระยะยาวจะได้มิใช่แค่ความฝันอีกต่อไป”

#WorldSoilDay
#GlobalSoilPartnership
#UNFAO
#CDD
#SEPtoSDGs
#SDGforAll@Kmitl
#กรมการพัฒนาชุมชน

อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สพจ.อุบลราชธานี และ สพอ.ทุ่งศรีอุดม ภาพข่าว/รายงาน