รมว.คลัง และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

วันที่ 6 ตุลาคม 2564 เวลา 14.30 น. ณ วัดยวด ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการคลัง และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของและถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ อ.เสนา โดยมี นายวีระชัย นาคมาศ(นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายชัชวัสส์ ณ สงขลา คลังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภัทรชัย หาญวิศิษฎ์ ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอเสนา นายแพทย์ธเนศ ดุสิตสุนทรกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสนา หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมมอบถุงยังชีพ ให้แก่ชาวบ้านตำบลบ้านแพน หมู่ที่ 3 – 9 จำนวน 440 ชุด จากนั้น คณะได้เดินทางไปที่ องค์การบริหารส่วนตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของและถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ หมู่ที่ 1 – 7 จำนวน 500 ชุด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน รวมทั้งให้การช่วยเหลือระยะเร่งด่วน ซึ่งสถานการณ์สภาพอากาศในขณะนี้ โดยการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานไว้ว่าวันที่ 8 – 10 อาจจะมีพายุลูกใหม่เข้ามา จึงขอฝากให้พี่น้องชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาติดตามข้อมูลข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิด อีกทั้งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่โดยรัฐบาลฝากให้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ ขออย่าได้ย่อท้อ และใช้ความอดทนต่อสู้กับภัยธรรมชาติในครั้งนี้

ในขณะเดียวกันนี้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของและถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ อบต.ลาดงา อ.เสนา โดยมี นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับและร่วมมอบถุงยังชีพ ให้แก่ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลลาดงา อำเภอเสนา จำนวน 560 ชุดสำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอเสนา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 12 ตำบล 96 หมู่บ้าน 4,980 ครัวเรือน และวัดที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 วัด