ภาพรวมดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกันยายน 2564 กลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ร้อยละ 1.68 หลังจากที่หดตัว ร้อยละ 0.02 ในเดือนก่อน โดยมีปัจจัยสาคัญจากการสิ้นสุดลงของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านสาธารณูปโภค (ค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้าประปา) และระดับราคาขายปลีกน้ามันเชื้อเพลิงยังสูงต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ยังเคลื่อนไหวเป็นปกติและค่อนข้างทรงตัว ยกเว้นสินค้ากลุ่มอาหารสดที่เคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อนข้างผันผวน แต่ส่วนใหญ่ยังมีราคาต่ากว่าปีก่อน โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด ผักสดและผลไม้สด ยกเว้น ไข่ไก่ที่ยังมีราคาสูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมากแต่แนวโน้มราคาเริ่มลดลงตามลาดับ
เงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนนี้ สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน อาทิ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนาเข้า มูลค่าการส่งออกสินค้า รายได้เกษตรกร ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้ผลิตที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ชี้ว่าราคาสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายในระยะต่อไปยังมีแรงส่งจากราคาสินค้าในภาคการผลิต บางชนิด ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
เงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว) สูงขึ้นร้อยละ 0.19 (YoY) เป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องจากร้อยละ 0.07 ในเดือนก่อน เงินเฟ้อทั่วไป เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2564 ขยายตัวร้อยละ 1.59 (MoM) ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 0.70 (YoY) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สูงขึ้นร้อยละ 0.23 (QoQ) และเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.) ปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 0.83 (AoA)แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไป ไตรมาสที่ 4 ของปี 2564เงินเฟ้อในไตรมาสสุดท้ายของปี หากไม่มีมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐที่ส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการอย่างมีนัยสาคัญเพิ่มเติม จะมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสาคัญจาก
1) แนวโน้มราคาน้ามันยังอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราเพิ่มที่น้อยกว่าช่วงที่ผ่านมา
2) แนวโน้มสถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดาเนินการได้ตามลาดับ
3) แนวโน้มการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและขนส่ง อย่างไรก็ตาม สินค้าในหมวดอาหารสดบางชนิด โดยเฉพาะ ข้าว ผักสดและผลไม้สด ยังคงมีแนวโน้มต่ากว่า ปีก่อน และมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ ขณะที่สถานการณ์โควิดยังคงเป็นความเสี่ยงที่เป็นตัวแปรสาคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องเฝ้าระวังและส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสาคัญ
ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2564 กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับสมมุติฐานสาหรับคาดการณ์เงินเฟ้อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2564 จะอยู่ระหว่าง ร้อยละ 1.0 ± 0.2 หรืออยู่ในช่วงร้อยละ 0.8 – 1.2
ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนกันยายน 2564 และไตรมาสที่ 3 ของปี 2564
ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนกันยายน 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 1.68 (YoY) กลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ร้อยละ 1.68 หลังจากที่หดตัว ร้อยละ 0.02 ในเดือนก่อน โดยมีปัจจัยสาคัญจากการสิ้นสุดลงของมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านสาธารณูปโภค (ค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้าประปา) และระดับราคาขายปลีกน้ามันเชื้อเพลิงยังสูงต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวเป็นปกติและค่อนข้างทรงตัว ยกเว้นสินค้า กลุ่มอาหารสดที่เคลื่อนในทิศทางที่ค่อนข้างผันผวน แต่ส่วนใหญ่ยังมีราคาต่ากว่าปีก่อน โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด ผักสดและผลไม้สด ยกเว้น ไข่ไก่ที่ยังมีราคาสูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมากแต่แนวโน้มราคาเริ่มลดลงตามลาดับ โดยมีรายละเอียดการเคลื่อนไหว ดังนี้
หมวดสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 3.60 ได้แก่
– หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร สูงขึ้นร้อยละ 10.08 (น้ามันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะ)
– หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.30 (ค่าแต่งผมชาย ครีมนวดผม แชมพู)
– หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.03 (สุรา เบียร์)
– ขณะที่ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลดลงร้อยละ 0.24 (เสื้อยืดสตรี เสื้อยืดบุรุษ กางเกงขายาวบุรุษ)
– หมวดเคหสถาน ลดลงร้อยละ 0.10 (ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน ค่าน้าประปา)
– หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ ลดลงร้อยละ 0.94 (ค่าลงทะเบียน – ค่าธรรมเนียมการศึกษา)
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ 1.16 ได้แก่
– กลุ่มข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ลดลงร้อยละ 7.92 (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว แป้งข้าวเจ้า)
– กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้้า ลดลงร้อยละ 1.46 (เนื้อสุกร ไก่สด ปลาทู)
– กลุ่มผักสด ลดลงร้อยละ 5.33 (มะเขือเทศ มะนาว ผักชี กะหล่าปลี หัวหอมแดง)
– กลุ่มผลไม้สด ลดลงร้อยละ 3.78 (เงาะ ลองกอง มะม่วง มังคุด มะละกอสุก)
– กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ 0.25 (น้าดื่มบริสุทธิ์ กาแฟผงสาเร็จรูป น้าผลไม้)
– ขณะที่ กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม สูงขึ้นร้อยละ 3.76 (ไข่ไก่ ไข่เป็ด นมสด นมข้นหวาน นมเปรี้ยว)
– กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร สูงขึ้นร้อยละ 4.81 (น้ามันพืช ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม พริกแกง)
– กลุ่มอาหารบริโภคในบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 0.32 (กับข้าวสาเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง)
– กลุ่มอาหารบริโภคนอกบ้าน สูงขึ้นร้อยละ 0.28 (อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) อาหารเช้า อาหารเย็น(อาหารตามสั่ง))
เงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว) 0.19 (YoY) ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่สูงขึ้นร้อยละ 0.07 เงินเฟ้อทั่วไป เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2564 สูงขึ้นร้อยละ 1.59 (MoM) ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 0.70 (YoY) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สูงขึ้นร้อยละ 0.23 (QoQ) และเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.) ปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 0.83 (AoA)
ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกันยายน 2564 และไตรมาสที่ 3 ของปี 2564
ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกันยายน 2564 สูงขึ้นร้อยละ 5.3 (YoY) จากร้อยละ 4.9 ในเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะ หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นถึงร้อยละ 21.1 จากร้อยละ 18.7 ในเดือนก่อนหน้า และหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 6.1 จากร้อยละ 5.5 ในเดือนก่อนหน้า จากการสูงขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบและราคาในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น จากความต้องการที่ปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 4.8 ลดลงต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมาที่ลดลงร้อยละ 3.8 เป็นการลดลงต่าสุดในรอบ 16 เดือน ตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดจานวนมาก ขณะที่ความต้องการในประเทศยังคงชะลอตัว ประกอบกับการแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่งค่อนข้างสูง โดยมีรายละเอียดการเคลื่อนไหว ดังนี้
หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 6.1 ได้แก่
– กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม (น้ามันดีเซล น้ามันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 น้ามันเตา น้ามันเครื่องบิน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG))
– กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี (เม็ดพลาสติก โซดาไฟ ปุ๋ยเคมีผสม)
– กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร (น้ามันปาล์ม น้าตาลทราย กากน้าตาล มันเส้น มันอัดเม็ด แป้งมันสาปะหลัง)
– กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน (เหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กเส้น เหล็กฉาก เหล็กรูปตัวซี เหล็กลวด)
– กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์)
– กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก (ยางแท่ง ถุงมือยาง ถุงพลาสติก แผ่นฟิล์มพลาสติก และบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ)
– กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ (รถยนต์นั่ง รถบรรทุกขนาดเล็ก)
หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 21.1 ได้แก่ น้ามันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติและกลุ่มแร่ (แร่เหล็ก ดีบุก สังกะสี)
หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 4.8 ได้แก่
– กลุ่มพืชล้มลุก (ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว)
– กลุ่มพืชผัก (กะหล่าปลี ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม ต้นหอม)
– กลุ่มไม้ผล (สับปะรด ทุเรียน มะม่วง กล้วยหอม กล้วยน้าว้า)
– กลุ่มไม้ยืนต้น (มะพร้าวผล)
– กลุ่มสัตว์ (สุกร ไก่มีชีวิต)
– สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ หัวมันสาปะหลังสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลปาล์มสด ยางพารา และกลุ่มผลิตภัณฑ์จากการประมง (ปลาลัง ปลาทรายแดง ปลาสีกุน ปลาหมึก และหอยแครง)
ดัชนีราคาผู้ผลิต เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2564 สูงขึ้นร้อยละ 0.3 (MoM) ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 5.0 (YoY) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สูงขึ้นร้อยละ 1.1 (QoQ) และเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.) ปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 3.8 (AoA)
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนกันยายน 2564 และไตรมาสที่ 3 ของปี 2564
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนกันยายน 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 8.6 (YoY) ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่สูงขึ้นร้อยละ 8.8 เป็นการปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกหมวดสินค้า (ยกเว้นหมวดซีเมนต์ และวัสดุฉาบผิวปรับลดลง) โดยเฉพาะหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กยังคงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาในตลาดโลกที่อุปสงค์ในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ยังคงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและอยู่ในระดับสูง ซึ่งปรับราคาเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบเป็นสาคัญ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สูงขึ้นถึงร้อยละ 37.0 (เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ลวดเหล็กเสริมคอนกรีตอัดแรง)
หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 4.1 (สายไฟฟ้า VCT ประตูน้า สายเคเบิล THW ก๊อกน้า ข้องอ-ข้อต่อท่อประปา ท่อร้อยสายไฟและสายโทรศัพท์ PVC)
หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 4.2 (ชีทไพล์คอนกรีต ผนังคอนกรีตสาเร็จรูป เสาเข็มคอนกรีต เสริมเหล็ก)
หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 2.0 (ไม้แบบ ไม้โครงคร่าว บานประตู-หน้าต่าง ไม้คาน วงกบประตู-หน้าต่าง)
หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นร้อยละ 0.6 (อิฐ หิน ดิน ทราย และอลูมิเนียม)
หมวดกระเบื้อง สูงขึ้นร้อยละ 0.2 (กระเบื้องยาง PVC ปูพื้น)
หมวดสุขภัณฑ์ สูงขึ้นร้อยละ 0.2 (ราวแขวนผ้าติดผนัง สายน้าดี ฝักบัวอาบน้า กระจกเงา)
ขณะที่ หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 1.7 (ปูนซีเมนต์ผสม ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์)
หมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.1 (ซิลิโคน)
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2564 โดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง (MoM) ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 8.4 (YoY) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลงร้อยละ 0.4 (QoQ) และเฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.) ปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 7.5 (AoA)
Concept ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ซื้อขายใน 12จังหวัด ได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลาและ นครศรีธรรมราช ครอบคลุมหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกระเบื้อง วัสดุฉาบผิว สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 134 รายการ