นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินงานเกี่ยวกับอุทกภัยในภาคคมนาคม โดยมี ผู้แทนกรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ขนส่ง จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ณ ห้องราชดำเนิน กระทรวงคมนาคม
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อโครงข่ายคมนาคมในหลายพื้นที่ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง โดยติดตั้งป้าย/อุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น จัดรถรับ – ส่ง และมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และซ่อมแซมเส้นทางสัญจรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้อย่างปลอดภัย ตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม โดย ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม สรุปรายงานอุทกภัยในเส้นทางคมนาคม ข้อมูล ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2564 รายละเอียดดังนี้
1. มีโครงข่ายคมนาคมได้รับผลกระทบ รวม 93 เส้นทาง จำนวน 121 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 67 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้ 54 แห่ง แบ่งเป็นทางถนน 50 แห่ง และทางราง 4 แห่ง
2. ถนนทางหลวงและทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ รวม 89 เส้นทาง จำนวน 109 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 60 แห่ง สัญจรผ่านไม่ได้ 49 แห่ง
3. มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ทั้งหมด 16 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) จังหวัดอ่างทอง 2) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3) จังหวัดนครราชสีมา 4) จังหวัดชัยภูมิ และ 5) จังหวัดนครสวรรค์
4. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีเส้นทางเดินรถที่ได้รับผลกระทบ 10 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 6 แห่ง ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง ได้แก่
– ระหว่าง สถานีหนองโดน – บ้านหมอ กม.ที่ 113/5 – 116/1 จังหวัดสระบุรี
– ระหว่าง สถานีบำเหน็จณรงค์ – สถานีจัตุรัส กม.ที่ 296/5 – 297/7 จังหวัดชัยภูมิ
– ระหว่าง สถานีบำเหน็จณรงค์ – สถานีจัตุรัส กม.ที่ 308/5 – 310/2 จังหวัดชัยภูมิ
– ระหว่าง สถานีบ้านเหลื่อม – สถานีหนองพลวง กม.ที่ 352/13 – 14 จังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ ส่งผลให้หยุดเดินรถ จำนวน 7 ขบวน ดังนี้
– เส้นทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ จำนวน 2 ขบวน
– เส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่ จำนวน 4 ขบวน
– เส้นทางกรุงเทพ – ลพบุรี จำนวน 1 ขบวน
เปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ จำนวน 1 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพ – หนองคาย จำนวน 2 ขบวน โดยเปลี่ยนเส้นทางมาใช้เส้นทางแก่งคอย – ปากช่อง – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย และลดระยะทางวิ่ง จำนวน 9 ขบวน ดังนี้
– เส้นทางกรุงเทพ – ลพบุรี จำนวน 3 ขบวน เหลือเส้นทางกรุงเทพ – บ้านหมอ
– เส้นทางกรุงเทพ – พิษณุโลก จำนวน 2 ขบวน เหลือเส้นทางลพบุรี – พิษณุโลก
– เส้นทางกรุงเทพ – ตะพานหิน จำนวน 2 ขบวน เหลือเส้นทางลพบุรี – ตะพานหิน
– เส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่ จำนวน 2 ขบวน เหลือเส้นทางลพบุรี – เชียงใหม่
5. บริษัท ขนส่ง จำกัด ปรับเส้นทางเดินรถที่มีเส้นทางผ่านจังหวัดพิจิตร ได้แก่ สาย 47 กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง สาย 957 กรุงเทพฯ – แม่สาย และ สาย 962 กรุงเทพฯ – ป่าแดด – เชียงของ เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง ทล.117 นครสวรรค์ – พิษณุโลก แทน
6. กรมเจ้าท่า ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเรือท้องแบนพระราชทานฯ ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกและมอบชุดถุงยังชีพ อาหาร และน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย โดยพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ประกอบด้วย
– เจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 ในเขตพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก
– เจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 ในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี
– เจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 ในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
7. กรมทางหลวงชนบทนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมถนนสาย ชย. 3013 จังหวัดชัยภูมิ และสร้างสะพานเหล็กชั่วคราว กพ. 020 สะพานข้ามแม่น้ำวงก์ นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า ได้ออกประกาศกรมเจ้าท่าเรื่องกำหนดการลากจูงในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก โดยเฉพาะช่วงระดับน้ำสูงและไหลแรง ได้ออกประกาศกรมเจ้าท่าที่ 204/2664 เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมการเดินเรือ ในช่วงระดับน้ำสูงกว่าปกติ ลงวันที่ 21 กันยายน 2564
กรณีมีการขนส่งทางน้ำ เรือลำเลียง ได้มีคำสั่งประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยาที่ 13/2564 ลงวันที่ 29 กันยายน2564 ให้ลดระยะพ่วงจูงพ่วงละไม่เกิน 3 ลำ เพื่อความปลอดภัยต่อการเดินเรือ และการขนส่งทางน้ำไปยังเรือแม่ที่เกาะสีชังมิให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้จัดหน่วยออกตรวจตราไม่ให้บรรทุกน้ำหนักเกิน ใช้ระบบกล้อง CCTV ในการเฝ้าระวังตรวจตรา ควบคุมความเร็วไม่ให้ใช้ความเร็วเกินกำหนด รวมทั้งประชาสัมพันธ์กับเรือที่ให้บริการให้ปฎิบัติตามคำสั่งกรมเจ้าท่าอย่างเคร่งครัดต่อไป
สำหรับประชาชนหรือผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามเส้นทางหรือขอความช่วยเหลือ รวมทั้งแจ้งเหตุอุทกภัยทางถนน ได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356 หรือติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงฯ ดังนี้
– สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586
– สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
– สายด่วนบริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 เรียก บขส.
– สายด่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690
– สายด่วนกรมเจ้าท่า โทร. 1199