กรมวิทย์ฯถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าผสมสารสกัดมะหาดให้เอกชนเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไทย

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานลงนาม การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าผสมสารสกัดมะหาด ว่า จากรายงานการศึกษาวิจัยทั้งภายในและต่างประเทศ พบว่า สารออกซีเรสเวอราทรอล (oxyresveratrol) ซึ่งเป็นสารสำคัญจากแก่นมะหาด สามารถช่วยบำรุงผิว ต่อต้านการเกิดริ้วรอยและการเหี่ยวย่นของผิวได้ดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยสมุนไพร จึงได้วิจัย และพัฒนาพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบจากสารสกัดมะหาดผ่านกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตามมาตรฐานสากลขึ้น โดยศึกษาวิธีการเตรียมสารสกัดมะหาดให้ได้สาร oxyresveratrol ที่มีความบริสุทธิ์สูง นำมาพัฒนาสูตรตำรับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 9 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บอดี้โลชั่น ผลิตภัณฑ์ serum all in one ผลิตภัณฑ์ Night Cream ผลิตภัณฑ์ Day cream ผลิตภัณฑ์ Toner ผลิตภัณฑ์สเปรย์น้ำแร่ ผลิตภัณฑ์ Sunscreen ผลิตภัณฑ์ Hair Tonic และผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าผสมสารสกัดมะหาด พบว่า ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพทำให้ผิวขาวขึ้น ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอยหางตา กระชับผิว เพิ่มความยืดหยุ่น และผ่านการประเมิน ด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว

นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการไทยรายใหม่ (startup) ในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงตอบสนองความต้องการและช่วยให้ผู้บริโภคได้เข้าถึง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรไทยที่ผ่านระบบการวิจัยสมัยใหม่ ตามมาตรฐานสากล กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้ มีการลงนามความร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสารสกัดมะหาด กับ ภาคเอกชน ที่มีศักยภาพในการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 โดยได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ serum all in 1 จากสารสกัดมะหาด และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ Night Cream ผลิตภัณฑ์ Sunscreen และผลิตภัณฑ์ Hair tonic จากสารสกัดมะหาด

“ครั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าจากสารสกัดมะหาด ให้กับบริษัท นูร่าดี จำกัด เพื่อจะได้นำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ ในนามแบรนด์ของคนไทย เป็นการนำผลงานวิจัยที่ผ่านระบบการวิจัยสมัยใหม่ ตามมาตรฐานสากล มาต่อยอดเชิงอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสินค้าไทยที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ได้มากยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของสมุนไพรไทย”นายแพทย์ศุภกิจ กล่าว

******************** 4 ตุลาคม 2564