วันที่ 3 ต.ค.64 เวลา 15:00 น. ที่บริเวณหน้าวัดอินทาราม ตำบลทางช้าง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสันต์ สร้อยแสง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายกิจจา ทองแดง พัฒนาการจังหวัด นายสมยศ เกษสุวรรณ นายอำเภอบางบาล นางรัตนา หวังเทพอนุเคราะห์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ ร่วมกับพระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย พระครูสิทธิสรคุณ พระอาจารย์แก้ว เจ้าอาวาสวัดตะโก คณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดลพบุรี ลงพื้นที่ให้กำลังใจช่วยเหลือวัดและประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในการนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะสงฆ์ ได้ลงเรือร่วมถวายเครื่องอุปโภคบริโภคแด่คณะสงฆ์วัดอินทาราม และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง และเครื่องใช้ต่าง ๆ แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 100 ชุด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระดํารัสว่า หากพื้นที่ใดประสบปัญหาความเดือดร้อน และยังขาดความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารการกินและเครื่องอุปโภคต่างๆ ให้จังหวัดและอำเภอ ประสานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อลงมาให้ความช่วยเหลือร่วมกับภาครัฐ รวมทั้งกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึงไม่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนทุกคน และกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายบูรณาการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงขอให้พวกเราช่วยเหลือกัน อดทน ถ้ามีอะไรก็บอกกล่าวกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว ซึ่งในวันนี้ผมได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และคณะสงฆ์ ในการมาร่วมให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ร่วมกับคณะสงฆ์ ระหว่างเดินทางมาพบว่ามีบ้านเรือนหลายหลังน้ำท่วม อย่างไรก็ดีจากการพยากรณ์อากาศ GISTDA พบว่าในอีก 9 วันข้างหน้าจะมีพายุเข้ามาอีกลูกหนึ่ง จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ประมาท ช่วยกันดูแลชีวิต สวัสดิภาพ และทรัพย์สิน ที่สำคัญก็คือต้องดูแลลูก ๆ หลาน ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ และขอฝากท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยดูแลลูกบ้านด้วย
ด้าน นายวีระชัย นาคมาศ กล่าวว่า ช่วงนี้ได้รับรายงานจากชลประทานที่ 12 ว่าเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำที่ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และยืนยันว่าจะไม่เกิน 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำจะทรงตัวอย่างนี้ ถ้าไม่มีพายุฝนเข้ามาเติม จากข้อมูลพายุจะเข้ามาในช่วงวันที่ 8-10 ตุลาคมนี้ ขอให้เราช่วยกันระวัง ในช่วงนี้คงต้องเร่งระบายน้ำมวลน้ำก้อนนี้ออกก่อน ข้อมูลจากทางชลประทาน 12 แจ้งว่ามวลน้ำทางเหนือหมดแล้ว แต่กำลังทยอยมาจากเขตสุโขทัย พิษณุโลก แพร่ น่าน ดาษเข้าทุ่ง และจะวนกลับมา ทำให้น้ำยังคงทรงอยู่อย่างนี้ประมาณ 7-10 วัน สำหรับ กรมชลประทานในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เริ่มผันน้ำเข้าทุ่ง ผักไห่ บางบาล เสนา และบางไทร ถ้าไม่มีฝนมาเติมช่วง 7 – 10 วันนี้ มวลน้ำน่าจะเบาบางลงเยอะ สำหรับแผนการช่วยเหลือเยียวยา วันนี้ทางเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น ในส่วนทางจังหวัดฯ ได้สั่งการให้นายอำเภอได้สำรวจผู้ได้รับผลกระทบ 5,800 ครัวเรือน ซึ่งเราจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้ครบทุกครัวเรือนโดยเร็วที่สุด