ปภ.รายงานกรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดปริมณฑล คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานกรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดปริมณฑล คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานให้จังหวัดแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์มิให้รุนแรงมากขึ้น

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 เวลา 05.00 น. พบว่า มีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน คือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน และ แขวงพลับพลา เขตวันทองหลาง) ปทุมธานี (ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง) สมุทรปราการ (ตำบลทรงคนอง ตำบลตลาด อำเภอพระประแดง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ และตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง) สมุทรสาคร (ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน และริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร) นครปฐม (ตำบลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม) มีค่า PM2.5 ระหว่าง 51 – 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 101 – 170 ซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมี ผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด อีกทั้งประชาสัมพันธ์ผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพอนามัย และข้อมูลคุณภาพอากาศ ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนแก่ประชาชน ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์มิให้รุนแรงมากขึ้น สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองสูงให้หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดดมฝุ่นละอองจำนวนมากเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เจ็บป่วยได้ รวมถึงใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันมิให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ส่วนผู้ขับขี่ให้เพิ่ม ความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอยู่ในระดับต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานแก้ไขปัญหาโดยด่วนต่อไป