ผู้ว่าอยุธยา คนที่ 48 วีระชัย นาคมาศ เดินทางกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโอกาสเข้าปฏิบัติงานวันแรก

ผู้ว่าอยุธยา คนที่ 48 วีระชัย นาคมาศ เดินทางกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโอกาสเข้าปฏิบัติงานวันแรก มอบนโยบายช่วยเหลือประชาชนแก้ปัญหาน้ำท่วมควบคู่กับป้องกันโควิด-19

วันที่ 1 ต.ค. 64 เมื่อเวลา 07.29 น. นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้ากราบสักการะศักดิ์สิทธิ์และสถานที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติงานวันแรก โดยเข้ากราบสักการะศาลหลักเมือง พระมงคลบพิตร ณ วิหารพระมงคลบพิตร และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จากนั้นได้เดินทางไปศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสักการะพระภูมิเทวานาคราช ศาลตาศาลยายขุนศรีเมือง ท่านขุนเทพาดำรงฤทธิ์ และพญานาค ในโอกาสเดียวกันนี้ได้เข้ากราบนมัสการพระพุทธสิหิงส์ พระพุทธไตรรัตนนายก(จำลอง) และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ห้องโบราณราชธานินทร์ ภายในศาลากลางจังหวัด ซึ่งล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนชาวอยุธยาให้ความเคารพนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดย นายวีระชัย นาคมาศ ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นคนที่ 48 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ปัจจุบันอายุ 59 ปี จบการศึกษาระดับ มัธยมศึกษา โรงเรียนปทุมคงคา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา และโรงเรียนนายอำเภอ รุ่น 51 หลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่น 58 เคยดำรงตำแหน่ง นายอำเภอบางไทร นายอำเภอบางบาล นายอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร

นายวีระชัย นาคมาศ กล่าวว่า ผมเคยรับราชการอยู่หลายอำเภอในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ ตนเองดีใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และพร้อมจะเริ่มปฏิบัติงานได้ทันที สิ่งที่ต้องดำเนินการเป็นอย่างแรก คือการช่วยเหลือประชาชน เพื่อแก้ปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยวันนี้ ได้นัดสรุปสถานการณ์เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการ 2 เรื่องสำคัญๆ เรื่องแรก คือเรื่องสถานการณ์น้ำ ซึ่งตอนนี้การระบายน้ำ ในฝั่งซ้ายจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยายังทรงตัว คือ ช่วงอำเภอบางบาล และอำเภอเสนา และมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเพิ่มเติมที่ระบายมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สำหรับเรื่องที่สอง คือ เรื่องป้องกันและควบคุมโรคโควิด เป็นที่ทราบกันว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งได้รับข้อมูลจากท่านผู้ว่าฯ ภานุ แย้มศรี ว่าช่วงนี้ยังทรงตัว สามารถบริหารจัดการได้

ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา