ชป.สู้ไม่ถอย เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมสุโขทัย ชัยภูมิ อย่างต่อเนื่อง

กรมชลฯ เดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่สถานการณ์จะดีขึ้นโดยเร็ววัน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน(30 ก.ย.64) ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย 4 อำเภอ ได้แก่ ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม บ้านด่านลานหอย คีรีมาศ ศรีสำโรง และอำเภอเมืองสุโขทัย โครงการชลประทานสุโขทัย ได้เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม โดยใช้ระบบชลประทานในการจัดจราจรน้ำ ทำการหน่วงน้ำไว้ทางตอนบนของประตูระบายน้ำ(ปตร.)บ้านหาดสะพานจันทร์ พร้อมกับรับน้ำเข้า ปตร.คลองหกบาท ในอัตรา 164.44ลบ.ม./วินาที  โดยจะแยกไปลงคลองยม-น่าน 66.66 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำยมสายเก่า 97.78 ลบ.ม./วินาที และระบายลงสู่แม่น้ำยมสายหลักในอัตรา  75.89 ลบ.ม./วินาที เพื่อควบคุมให้แม่น้ำยมสายหลักมีระดับต่ำ เพื่อให้น้ำที่มาจากลำน้ำแม่มอกระบายลงสู่แม่น้ำยมได้สะดวก พร้อมกับรับน้ำเข้าคลองเชื่อมแม่น้ำยม ผ่านคลองเล็กต่างๆ รวมทั้งระบายน้ำผ่าน ปตร.บ้านยางซ้าย ช่วยเพิ่มการระบายน้ำไปยังด้านท้าย ทำให้น้ำในแม่น้ำยมระบายได้ดีขึ้น  เพื่อให้น้ำจากทุ่งทะเลหลวง และคลองแม่รำพัน สามารถระบายลงสู่แม่น้ำยมได้อย่างสะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ ยังได้เร่งระบายน้ำในลำแม่มอกเข้าสู่แก้มลิงและพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ แก้มลิงวังทองแดง และแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง เข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งปากพระ และส่วนหนึ่งไหลลงแม่น้ำยมต่อไป ล่าสุดสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเร็ววัน

ด้านสถานการณ์น้ำที่จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบัน(30ก.ย.64)มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้ง 16 อำเภอ หลายพื้นที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว ที่สถานีวัดน้ำ E.6C บ้านตาดโตน ปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 54 ซม.  ลดลง 64 ซม. จากวันที่ 26 ก.ย. (สูงกว่าตลิ่ง 1.18 ม.) ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปะทาว(ล่าง) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 18 ล้าน ลบ.ม. หรือ 110 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้น(Spillway) 0.34 เมตร แนวโน้มลดลง และอ่างเก็บน้ำลำคันฉู มีปริมาณน้ำ 44.2 ล้าน ลบ.ม. หรือ 103 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลผ่านอาคารระบายน้ำล้น 1.6 ล้าน ลบ.ม. /วัน คาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มน้ำในอ่างฯจะลดลงอยู่ในระดับเก็บกักที่ 42.6 ล้าน ลบ.ม. ภายใน 5 – 7 วันนี้

โครงการชลประทานชัยภูมิ ได้นำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่จำนวน 8 เครื่อง ลงพื้นที่ ติดตั้งแล้ว 7 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ประมาณ 1 แสน ลบ.ม./วัน และเมื่อปริมาณน้ำลดลงจะติดตั้งอีก 1 เครื่องบริเวณถนนบรรณาการ ใกล้กับโรงพยาบาลชัยภูมิ ซึ่งเมื่อรวมกับเครื่องสูบน้ำของเทศบาลที่สามารถสูบได้ ประมาณ 2.7 แสน ลบ.ม. /วัน  จะสามารถช่วยระบายน้ำได้วันละประมาณ 3.7 แสน ลบ.ม. /วัน  นอกจากนี้ยังคงใช้เครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง บริเวณสะพานข้ามลำห้วยลำปะทาว  ถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา สามารถช่วยผลักดันน้ำได้ 10  ลบ.ม./ วินาที ระบายลงสู่แม่น้ำชีได้ 8.6 แสน ลบ.ม./วัน  ทั้งนี้ จากระดับน้ำที่ขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ปัจจุบันระดับน้ำลดลงในบางพื้นที่ อาทิ ที่ถนนบรรณาการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลชัยภูมิ ระดับน้ำลดลงเหลือ 80 ซม. จาก 1.2 เมตร ส่วนบริเวณวงเวียนหอชัยภูมิ , ห้าแยกโนนไฮ และตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิระดับลดลง 30 – 40 ซม.  ส่วนพื้นที่ชั้นนอกเทศบาลเมืองชัยภูมิที่มีระดับสูงกว่าพื้นที่ชั้นใน ระดับน้ำลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มและน้ำสามารถระบายน้ำลงแม่น้ำชีได้ดีขึ้น จะสามารถสูบเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังได้เต็มกำลัง คาดว่าสถานการณ์น้ำจะค่อยคลี่คลายลงในระยะต่อไป

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเร่งเดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด ตามข้อสั่งการของรัฐบาล หากประชาชน หรือหน่วยงานใด ต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด

กรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
30 กันยายน 2564