รองปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินงานเกี่ยวกับอุทกภัยในภาคคมนาคม

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินงานเกี่ยวกับอุทกภัยในภาคคมนาคม โดยมี ผู้แทนกรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท ขนส่ง จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ในวันที่ 29 กันยายน 2564 ณ ห้องราชดำเนิน กระทรวงคมนาคม

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและปริมาณน้ำในแต่ละจังหวัดโดยได้รับข้อมูลจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ซึ่งเป็นที่พื้นที่ลุ่มต่ำส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ได้ติดตามข้อมูลปริมาณและทิศทางน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบเส้นทางการสัญจรที่จะได้รับผลกระทบ รวมทั้งวางแผนการดำเนินงานและการบริหารจัดการ เช่น การติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ รวมทั้งการจัดหาเส้นทางเลี่ยง และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อผู้ใช้เส้นทางสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม สรุปรายงานอุทกภัยในเส้นทางคมนาคม ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2564 รายละเอียดดังนี้

1. มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ทั้งหมด 22 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1) จังหวัดลพบุรี

2) จังหวัดนครราชสีมา

3) จังหวัดนครสวรรค์

4) จังหวัดชัยภูมิ

5) จังหวัดสุโขทัย

2. โครงข่ายคมนาคมได้รับผลกระทบรวม 150 เส้นทาง จำนวน 200 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 132 แห่ง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 68 แห่ง แบ่งเป็นทางถนน 64 แห่ง และทางราง 4 แห่ง
– ถนนทางหลวง ได้รับผลกระทบ รวม 68 เส้นทาง จำนวน 112 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 75 แห่ง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 37 แห่ง
– ถนนทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ รวม 78 เส้นทาง จำนวน 81 แห่ง สามารถสัญจรผ่านได้ 57 แห่ง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 24 แห่ง
– บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) งดเดินรถเส้นทาง กรุงเทพฯ – คลองลาน และปิดให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสุโขทัยชั่วคราว โดยเปลี่ยนจุดรับ – ส่งผู้โดยสาร เป็นบริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ใกล้แยกบางแก้ว รวมทั้งมีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ 3 เส้นทาง โดยเปลี่ยนเส้นทางรถโดยสารอุตรดิตถ์ สาย 100 มาใช้เส้นทาง นครสวรรค์ – พิษณุโลก – บ้านกงไกรลาศ – สุโขทัย และเส้นทางรถโดยสารชัยภูมิ สาย 5 และ 29 มาใช้เส้นทาง แยกสีดา – บัวใหญ่ – ชัยภูมิ และเส้นทางรถโดยสารกรุงเทพฯ – นครสวรรค์ เปลี่ยนมาใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1

– การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีเส้นทางเดินรถที่ได้รับผลกระทบ 1 เส้นทาง โดยปิดเส้นทางเดินรถเส้นทาง กรุงเทพฯ – หนองคาย (ขบวนรถไฟที่ 75/76, 433/434) และมีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 จุด ดังนี้

1) ระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ – จัตุรัส น้ำท่วมสูงกว่าสันราง 25 ซม. โดยเฉพาะที่สถานีจัตุรัส และสถานีบำเหน็จณรงค์ ขบวนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ปิดทางตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2564 เวลา 9.10 น.

2) ระหว่างสถานีบ้านเหลื่อม – หนองพลวง น้ำไหลหลากเซาะดิน, หิน บริเวณคอสะพานชำรุด ระยะทางประมาณ 30 เมตร ระดับน้ำลดเล็กน้อยยังคงมีกระแสน้ำยังไหลต่อเนื่อง ขบวนรถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ปิดทางตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 25 กันยายน 2564 ทั้งนี้ หากวันนี้ (29 กันยายน 2564) ไม่มีฝนตก เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อแก้ไขต่อไป

3) ระหว่างสถานีห้วยยายจิ๋ว – บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ คันทางด้านซ้ายก่อนถึงสะพานใหญ่ 278 โดนน้ำเซาะคันทางชำรุด/หมอนรองรางลอย เสียหายหนักมาก ปิดทางตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2564

4) เขตสถานีโนนสูงด้านเหนือ (ด้านสถานีบ้านคงพลอง) ระดับน้ำสูงกว่าสันรางประมาณ 15 เซนติเมตร บางช่วงมีกระแสน้ำแรง หินโรยทางถูกกระแสน้ำพัดออกจากทาง ปิดเส้นทางขาล่องระหว่างสถานีโนนสูง – บ้านดงพลอง ตั้งแต่เวลา 20.25 น. วันที่ 28 กันยายน 2564

3. กรมเจ้าท่า จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่า ในพื้นที่โดยให้เฝ้าติดตามผลกระทบสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนในหลายพื้นที่ โดยมีพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ประกอบด้วย เจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 ในเขตพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก เจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 ในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี เจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 ในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยดำเนินการ ดังนี้
– ศูนย์อำนวยการฯ พร้อมศูนย์อำนวยความสะดวก จำนวนรวมทั้งสิ้น 56 จุด
– จัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น 252 นาย
– เตรียมความพร้อมทางรถ จำนวนรวมทั้งสิ้น 81 คัน และทางเรือ จำนวนรวมทั้งสิ้น 64 ลำ
– จัดชุดถุงยังชีพ น้ำดื่ม แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งจุดอำนวยความสะดวกที่ส่วนราชการจัดไว้

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง เส้นทางที่ได้รับผลกระทบ และเส้นทางเลี่ยง หรือแจ้งเหตุอุทกภัย ได้ที่
– ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356
– สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586
– สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
– สายด่วนบริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490 เรียก บขส.
– สายด่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690
– สายด่วนกรมเจ้าท่า โทร. 1199