คณะกรรมการโรคติดต่ออยุธยา เตรียมปรับมาตรการตาม ศบค. สำหรับกิจกรรมและกิจการในพื้นที่ เริ่ม 1 ต.ค. 64 และเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีน Pfizer ให้แก่นักเรียน อายุ 12-18 ปี ก่อนเปิดเรียนภาคที่ 2/2564

วันที่ 28 กันยายน 64  เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 47/2564 โดยมี นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุม โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารภาคธุรกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom ณ ที่ตั้ง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานและกำหนดมาตรการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ข้อมูล ณ วันที่ 27 กันยายน 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 94 ราย รักษาหายแล้ว(วันนี้) 100 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 26,971 ราย รักษาหายสะสม 23,984 ราย เสียชีวิตสะสม 306 ราย และรับทราบคำสั่งจังหวัดฯ ที่ 2467/2564 ให้ขยายระยะเวลาจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลเมืองลำตาเสา อำเภอวังน้อย ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 และให้ขยายระยะเวลาจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ หอประชุมอำเภอบางปะอิน(หลังเก่า) อำเภอบางปะอิน ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

ในส่วนผลการกระจายวัคซีนวัคซีนโควิด ปัจจุบันมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนทุกกลุ่ม 647,921 คน สำหรับเข็มที่ 1 ฉีดแล้ว จำนวน 492,210 คน คิดเป็น 75.97 % และเข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 245,585 คน คิดเป็น 37.90% พร้อมตั้งเป้าว่าภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ จังหวัดจะได้รับจัดสรรวัคซีน เพื่อฉีดให้ครอบคลุมเข็มที่ 2 ได้ครบตามเป้า 70% เพื่อรองรับนโยบายเดินหน้าเปิดประเทศรับการท่องเที่ยว ระยะที่ 3 รวมทั้งผลการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระบบ HI , CI โรงพยาบาลสนาม และการจัดหา ATK ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การรายงานสถานการณ์โรคลัมปี สกิน มีสัตว์ป่วยใหม่ จำนวน 1 ตัว ป่วยสะสม 171 ตัว รวมทั้งดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ โค กระบือ ของเกษตรกรแล้ว ครั้งที่ 1 จำนวน 540 โดส และครั้งที่ 2 จำนวน 5,800 โดส

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเรื่องสำคัญตามข้อกำหนดของ ศบค. เกี่ยวกับการเตรียมการปรับมาตรการกิจการและกิจกรรม พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด เริ่ม 1 ต.ค. 64 ประกอบด้วย ห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 22.00-04.00 น.อย่างน้อย 15 วัน ห้ามรวมคนมากกว่า 25 คน บริโภคในร้านอาหารได้ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 75% มีเครื่องปรับอากาศ นั่งได้ 50% เล่นดนตรีได้ เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. (งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร) ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. (งดตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ และห้องประชุม/จัดเลี้ยง) ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ยกเว้นการใช้ไอน้ำ สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่ กิจกรรมที่มีการรวมคน ให้ผ่านความเห็นชอบจากผู้แทน ก.ศธ. และ ก.อว. ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. และสถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬา ไม่เกิน 21.00 น. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมจัดการแข่งขัน และการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ให้แก่นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-18 ปี ก่อนเปิดเรียนในภาคการศึกษาที่ 2/2564 ซึ่งได้สำรวจความเห็นของผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ให้ความยินยอม เป็นจำนวน 44,920 คน คิดเป็น 73.78% ทั้งนี้ ศึกษาธิการจังหวัดฯ ได้รับแจ้งการจัดสรรวัคซีนในสัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือนตุลาคม จำนวน 22,140 โดส ในรูปแบบการให้บริการวัคซีนผ่านสถาบันการศึกษาต่อไป