นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (ด้านอำนวยการ) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และส่วนภูมิภาค โดยมีนายธนิต วงศ์ปิยนันทกุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ กับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ อว. เพื่อนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (ระบบเอไอ AiMASK) มาใช้ในการเฝ้าระวังการสวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างระหว่างประชาชน เพื่อป้องกัน ควบคุม และลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนทั่วโลกมีชีวิตวิถีใหม่ โดยคำนึงถึงสุขภาพและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นทั้งด้านการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัยเหมือนการสวมเสื้อผ้า รับประทานอาหารสุกใหม่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรค ลดการปฏิสัมพันธ์ เน้นกิจกรรมที่บ้านมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารและการใช้ชีวิต และดูแลสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้อากาศถ่ายเทสะดวก ด้านการปฏิบัติงานมีการป้องกันอย่างเคร่งครัดทั้งการล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการป้องกันการนำโรคสู่บ้าน
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ มีกำหนดระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมทั้งหมด จำนวน 7 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาขน) โดยมีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันพัฒนาระบบระบบเอไอ AiMASK ในการเฝ้าระวังการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และการเว้นระยะห่างระหว่างประชาชนผู้สัญจรในเขตต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และส่วนภูมิภาค เพื่อใช้ในการป้องกัน ควบคุม และลดการแพร่ระบาดฯ ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางบก กรมท่าอากาศยาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริษัท ขนส่ง จำกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด จะอำนวยความสะดวกและอนุญาตให้ใช้ภาพจากกล้อง CCTV หรือข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่แต่ละหน่วยงานเป็นเจ้าของ รวมทั้งร่วมจัดสรรพื้นที่ดำเนินโครงการประเมินความร่วมมือไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดฯ และร่วมเป็นคณะทำงานดำเนินโครงการประเมินความร่วมมือไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดฯ ภายในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และส่วนภูมิภาค
รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า การมีระบบประเมินและติดตามการสวมหน้ากากอนามัย และระบบวัดการเว้นระยะห่างจะสามารถประเมินพฤติกรรมของประชาชน และทำให้มีข้อมูลนำเสนอต่อภาครัฐ รวมไปถึงภาคประชาชนแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถรู้ภาพรวมของสถานการณ์และเข้าใจถึงจุดเสี่ยงตามสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย และสามารถนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการบ้านเมืองด้านอื่น ๆ