บริเวณประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องโดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนตกหนักบางแห่งขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคกลางประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลางโดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
– ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. เกษตรกรควรดูแลระบบระบายน้ําในแปลงปลูกให้ใช้งานได้ตามปกติ เพื่อป้องกันน้ําท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทําให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ําควรเสริมขอบบ่อ ให้สูงขึ้นตลอดจนจัดเตรียมวัสดุสําหรับกั้นขอบบ่อและอุปกรณ์สําหรับสูบน้ําเอาไว้ให้พร้อมใช้งานนอกจากนี้ระวังป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและไม้ดอก เช่นโรครากเน่าโคนเน่าในส้มโอ โรคแอนแทรกโนสในกล้วยไม้ เป็นต้น
– กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ในช่วงนี้ ประเทศไทยอยู่ในช่วงของฤดูฝนทำให้การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อย
– ภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหาย จากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในช่วงที่มีฝนตกชุก เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนานเพราะจะทำให้รากพืชเน่าต้นพืชตายได้รวมทั้งระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคใบยางร่วงลูกยางเน่าในยางพาราและโรครากเน่าในพริกไทย เป็นต้นส่วนผู้ที่เลี้ยง สัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรงเพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้แก่น้ำคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
โดยวันนี้ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล’มีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วยในหน้าฝนนี้ อย่าลืม พกร่ม หรือเสื้อกันฝนออกไปด้วย
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th แอปพลิเคชั่น thai weatherFacebook youtube Channel twitter กรมอุตุนิยมวิทยาและ สถานีวิทยุกระจายเสียง ของกรมอุตุนิยมวิทยา
” อุตุนิยมวิทยายุคใหม่ แจ้งข่าวฉับไว ใส่ใจปวงชน”