วันที่ 18 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น. นายเอกวิทย์ มีเพียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายจรัญ อินทสระ พัฒนาการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจตุพล ศรีดำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่ตรวจติดตามและเยี่ยมชมความสำเร็จการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” โดยมี นายชินโนรส บุญพิทักษ์ พัฒนาการอำเภอทุ่งสง นางเตือนใจ สุทธิชล ปลัดอำเภอ ส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ตลอดจนนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ ให้การต้อนรับ และนำเยี่ยมชมกิจกรรมภายในแปลง ณ พื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of life : CLM) ระดับตำบล ขนาดพื้นที่ 15 ไร่ ของนางจำเนียร ชูปาน ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เวลาต่อมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามและเยี่ยมชมความสำเร็จการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ของนายณรงค์ศักดิ์ รักบ้าน ดำเนินโครงการฯ ในพื้นที่ขนาดพื้นที่ 15 ไร่ ณ พื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบล (Community Lab Model For Quality Of Life : CLM) ตำบลนาไม้ไผ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
นายจรัญ อินทสระ พัฒนาการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการอนุมัติดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” จากทางรัฐบาลผ่านกรมการพัฒนาชุมชน จำนวน 22,063,800 บาท โดยมีพื้นที่เป้าหมายในจังหวัดทั้งสิ้น จำนวน 156 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่ระดับตำบล (CLM) จำนวน 12 แห่ง และพื้นที่ระดับครัวเรือน (HLM) จำนวน 144 แห่ง และโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จำนวน 8,870,000 บาท โดยมีกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่เรียนรู้ชุมชน 139 แห่ง แบ่งเป็น พื้นที่ขนาด 1 ไร่ จำนวน 95 แห่ง และพื้นที่ขนาด 3 ไร่ จำนวน 44 แห่ง ในส่วนของอำเภอทุ่งสง มีพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” จำนวน 156 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่ระดับตำบล (CLM) จำนวน 12 แห่ง และพื้นที่ระดับครัวเรือน (HLM) จำนวน 144 แห่ง ซึ่งพื้นที่ดำเนินการตามโครงการฯ อยู่ภายในพื้นที่อำเภอทุ่งสงทั้งหมด ในส่วนของพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง พื้นที่ 1 ไร่ จำนวน 5 แปลง และพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 7 แปลง รวมทั้งหมด 12 แปลง เป็นเงินงบประมาณ จำนวน 954,000 บาท อีกทั้งยังมีการจ้างงานนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ จำนวน 120 คน ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of life : CLM) ระดับตำบล และพื้นที่ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Household Lab Model for quality of life : HLM) ระดับครัวเรือน เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ผ่านการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร บัณฑิตจบใหม่ และกลุ่มแรงงานที่อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจติดตามและเยี่ยมชมความสำเร็จในครั้งนี้ พบว่า พื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบฯ ทั้ง 2 แปลง ได้ดำเนินการตามแนวทางฯ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้และเป็นต้นแบบให้กับครัวเรือนอื่นๆในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูกสมุนไพรไทย ซึ่งทั้งสองแปลงได้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์ต้นกล้าพืชสมุนไพรที่ได้แจกจ่ายพืชสมุนไพรให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้เป็นจำนวนมาก อาทิ กระชาย ฟ้าทะลายโจร ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว รวมถึงพืชสมุนไพรประจำถิ่นกว่า 20 ชนิด ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบฯ สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือน รวมถึงนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ สมกับที่ถูกกล่าวขานถึงว่าเป็น “คันนาทองคำ”
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สมุนไพรไทย นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโควิด19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัด หรือป้องกันการติดเชื้อได้ เช่น กระชาย พบว่า สารสกัดของกระชายขาว สามารถแสดงฤทธิ์ในการต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับ ฟ้าทะลายโจร โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้การรับรองแล้วว่ามีสารแอนโดกราโฟไลด์ ที่สามารถรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ โดยให้รับประทานฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลน์ วันละ 180 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 วัน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย จะเห็นได้ว่า สมุนไพรไทยมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย ที่สามารถนำมาช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนรอดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนสามารถฟื้นตัว และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เมื่อเทียบกับการลงทุนในด้านอื่นๆ ถือว่ามีความเสี่ยงที่น้อย แต่กลับได้ผลประโยชน์อย่างคุ้มค่าและทั่วถึงตามหลักทฤษฎีใหม่ ซึ่งเป็นหลักประกันในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ซึ่งรัฐบาลก็ยังให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนโครงการฯ ดังกล่าว จากการได้รับอนุมัติงบประมาณกว่า 4,700 ล้านบาท ภายใต้งบเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ยกระดับขีดความสามารถของชุมชนให้พึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน
#โคกหนองนา
#โคกหนองนาโมเดล
#โคกหนองนาพัฒนาชุมชน
#Khoknongna
#CDD
#กรมการพัฒนาชุมชน
#WorldSoilDay
#GlobalSoilPartnership
#UNFAO
#SEPtoSDGs
#SDGforAll@Kmitl
#WorldSoilDayCDD
เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565 Change for good
สถานีข่าวพัฒนาชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงาน