สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ส.ค. 64
+ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำประเทศไทยมีฝนลดลง
+ แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 46,886 ล้าน ลบ.ม. (57%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 41,370 ล้าน ลบ.ม. (58%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 6 แห่ง (อ่างฯ แม่มอก อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน และอ่างฯ ขุนด่านฯ อ่างฯ นฤบดินทรจินดา)
+ กอนช.ติดตามการบริหารจัดการน้ำสถานการณ์ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดย กรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบจากระดับน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อย ดังนี้
ปรับลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ 1,287 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อยนอกคันกั้นน้ำ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ในระยะต่อไปจะควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในอัตรา 1,200 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดระดับน้ำให้อยู่ที่ระดับ +15.50 ม.รทก.ถึง+16.00 ม.รทก. สำหรับรองรับน้ำจากตอนบน ในกรณีที่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น
การบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้มีการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่ง รวมถึงด้านท้ายเขื่อนสามารถลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยรับน้ำผ่านประตูระบายน้ำปากคลองบางแก้ว และประตูระบายน้ำปากแม่น้ำลพบุรี ซึ่งจะลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนในอัตราที่ลดลงได้
เร่งเก็บกักน้ำ 4 เขื่อนหลักในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักชลสิทธิ์) งดการระบายน้ำและสำรองไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งหน้า
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อย(นอกคันกั้นน้ำ) มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ