สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 2 ก.ย. 64
+ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางแห่ง
+ แม่น้ำสายหลัก ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และแม่น้ำโขง น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มลดลง
+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 41,949 ล้าน ลบ.ม. (51%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 37,253 ล้าน ลบ.ม. (52%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 11 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 2 แห่ง (อ่างฯ นฤบดินทรจินดาและขุนด่านปราการชล)
+ สถานการณ์น้ำหลาก พบสถานการณ์บริเวณ จ.ตากชัยภูมิ นครราชสีมา กาญจนบุรี ปทุมธานี และนครศรีธรรมราช
+ พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่ม ในช่วง 2-3 วันนี้ บริเวณ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี และพังงา
+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สั่งการหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงปลายฤดูฝน หน่วยงานดำเนินการ ดังนี้
กรมทรัพยากรน้ำ เตรียมความพร้อม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะน้ำท่วม โดยเตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร เช่น เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุก/รถบรรทุกน้ำ 100 คัน เครื่องจักรกลหนัก 10 คัน เรือดูดโคลน 8 ลำ และแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและบรรเทาวิกฤตน้ำในช่วงฤดูฝน ปรับปรุงซ่อมแซมสถานีโทรมาตรและสถานี Early Warning System จำนวน 2,097 สถานีครอบคลุมพื้นที่ 4,911 หมู่บ้านพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งสร้างการรับรู้ผลการดำเนินงานการช่วยเหลือประชาชน
กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากหมู่บ้านเมืองเอก ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับคลองระบายน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางปู ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ซึ่งกรมชลประทาน จะเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กอนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์