ผู้ว่าฯอยุธยา เยี่ยมชมความพร้อมศูนย์พักคอยของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ร.ร.วัดศาลาปูน สั่งปู้พรมเคาะประตูบ้านชวนกลุ่ม 608 เร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด

วันที่ 31 สิงหาคม 2564 เวลา 14.30 น. นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอย ของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ที่โรงเรียนเทศบาลวัดศาลาปูน พระราชสิทธิมงคล (สวัสดิ์ โสตฺถิทตฺโต) โดยมี ดต.สุรินทร์ ผดุลเพียร รองนายเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ประธานศูนย์พักคอย พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา สมาชิกสภาเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับและได้รับความเมตตาจาก พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา/เจ้าอาวาสวัดศาลาปุนวรวิหาร มาร่วมตรวจเยี่ยมด้วย

สำหรับศูนย์พักคอยของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้รับการสนับสนุนให้ใช้สถานที่โดมอเนกประสงค์ภายในโรงเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดศาลาปูน พระราชสิทธิมงคล (สวัสดิ์ โสตฺถิทตฺโต) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและอาคารเรียนเป็นสถานที่พักคอย โดยความร่วมมือของว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุลนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร จัดสร้างขึ้นเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นำเข้าสู่ระบบการรักษามาพักเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน สามารถรองรับผู้ติดเชื้อขนาด 150 เตียง และที่วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา 60 เตียง ต่อจากนั้น นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เยี่ยมชมสถานที่พักคอยสำหรับพระสงฆ์ที่ติดเชื้อโควิด 19 โดยใช้อาคารโรงเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดศาลาปูน หลังเก่าภายในวัดศาลาปูนสร้างเป็นห้องพักสำหรับพระสงฆ์ที่ติดเชื้อสามารถรับได้จำนวน 70 เตียง

นายภานุ แย้มศรี กล่าวว่า สถานการณ์ของผู้ติดเชื้อในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ แต่ทางจังหวัดได้จัดสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อตามอำเภอต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งจัดตั้งศูนย์ Call Center เพื่อรองรับข้อร้องเรียนและประสานในการบริหารจัดการเตียงให้เข้าสู่ระบบการรักษาในพื้นที่ให้เป็นระบบ ทำให้ภาวะการครองเตียงลดลง และการร้องเรียนของประชาชนในการเข้าสู่ระบบการรักษาลดน้อยลงด้วย เนื่องจากจำนวนที่พักสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีเพิ่มขึ้น รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนได้เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ส่วนในเรื่องการฉีดวัคซีนในภาพรวมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉีดแล้วคิดเป็นร้อยละ 51 ของจำนวนประชากร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดและภาคเอกชนในการนำวัคซีนชิโนฟาร์มเสริมเข้ามา จึงทำให้ประชากรของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับวัคซีนสูงขึ้น

ทั้งนี้ ในกลุ่ม 608 ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ขณะนี้ยังอยู่ที่ 30 % ซึ่งได้เน้นย้ำไปที่อำเภอแต่ละท้องที่ประชุมหารือ กำนัน ผู้ใหญ่ ผู้นำชุมชน ปูพรมเดินเคาะประตูตามบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่ม 608 ให้มาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลให้มากที่สุด เว้นแต่กรณีไม่ประสงค์ที่จะฉีดวัคซีน ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถบังคับได้ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเมื่อเกิดการติดเชื้อจะมีผลกระทบต่อร่างกายมาก ด้านการปลดล็อกสถานประกอบการ และมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้น ร้านอาหาร สนามกีฬากลางแจ้ง แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการต่าง ๆ ที่สำคัญยังคงไว้ต่อเนื่อง เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความห่างไกลจากโรคโควิด-19 ที่เรายังคงต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น

ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เว็ปไซน์ https://ayutthaya.prd.go.th/