สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 31 ส.ค. 64

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 31 ส.ค. 64

+ ทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง

+ แม่น้ำสายหลัก ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และแม่น้ำโขง น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง น้อยถึงปกติ มีแนวโน้มทรงตัว ภาคใต้ น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มลดลง

+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 41,626 ล้าน ลบ.ม. (51%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,992 ล้าน ลบ.ม. (52%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 11 แห่ง เฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 1 แห่ง (อ่างฯ ขุนด่านปราการชล และนฤบดินทรจินดา)

+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มอบหมายหน่วยงาน ติดตาม ให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาและแก้ไขผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่

กรมชลประทาน เร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง บริเวณหน้าประตูระบายน้ำชลหารพิจิตร เพื่อเร่งอัตราการระบายน้ำให้เร็วขึ้น ในช่วงเวลาที่เปิดระบายน้ำออกสู่ทะเล พร้อมเพิ่มเครื่องสูบน้ำอีก 3 จุด ได้แก่ สถานีสูบน้ำบางปลา สถานีสูบน้ำคลองด่าน 2 และ สถานีสูบน้ำตำหรุ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการระบายน้ำท่วมขังให้ไหลลงสู่อ่าวไทยได้เร็วที่สุด พร้อมเร่งเดินเครื่องสูบน้ำบริเวณสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร และสถานีสูบน้ำตามแนวคลองชายทะเลทั้งหมด 9 แห่ง ให้สามารถระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ในขณะที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ผันน้ำบางส่วนทางตอนบนของคลองพระองค์ไชยานุชิตออกไปทางแม่น้ำบางปะกง เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่จังหวัดสมุทรปราการอีกทางหนึ่งด้วย และได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องแล้ว

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ (อำเภอเมือง บางพลี บางบ่อ และบางเสาธง) จังหวัดสมุทรปราการ ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมบางปู สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติในวันนี้