จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชรต.124 กอ.รมน.อยุธยา แจงการวางมาตรการและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กับกลุ่มบังยู ในการจัดกิจกรรม “คาร์บุญ” ขับแจกสิ่งของฯ

วันนี้ (29 ส.ค. 64) เมื่อเวลา 11.40 น. ที่บริเวณลานจอดรถยนต์พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ่างเก็บน้ำทุ่งภูเขาทอง ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจ.สภ.พระนครศรีอยุธยา โดย พ.ต.ท.กฤติเดช ภูมิธเนศ รอง ผกก.( ป.) สภ. พระนครศรีอยุธยา ผู้แทน กอ.รมน. และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมพูดคุยกับ นายสมชาย แสงเทียน (บังยู) แกนนำกลุ่ม “บังยู ช่วยชาวอยุธยา” เพื่อชี้แจงหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการวางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จากกรณีกลุ่มฯ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องข้อชี้แจงในการแก้ไขสถานการณ์โรคระบาด และมาตรการเยียวยาผลกระทบของจังหวัดฯ ที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 30 ก.ค.64 ที่ผ่านมานั้น

โดย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีหนังสือชี้แจงข้อเรียกร้องของกลุ่มว่า จังหวัดฯ ได้มีการวางมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ ดังนี้ จังหวัดมีหน่วยงานบริการประชาชนและมีช่องทางติดต่อสายด่วน เช่น ด้านการแพทย์/การรักษาพยาบาล ด้านสถานประกอบการ/ลูกจ้าง ด้านสิทธิประกันสังคม ด้านการร้องเรียนร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ พร้อมสายด่วน Call Center ที่หมายเลข 0 3532 1456 เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร รับแจ้ง ให้คำปรึกษา ตลอดจนประสานส่วนราชการที่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และมีหน่วยงานที่มีภารกิจให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกแห่ง ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพ โดยมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ป้องกันโรค อาหารและปัจจัยพื้นฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการมอบถุงยังชีพไปแล้วกว่า 57,755 ถุง

สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ล่าช้านั้น เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมีการกระจายไปในพื้นที่หลายอำเภอและพบเป็นกลุ่มก้อน ส่งผลให้ช่วงแรกเกิดปัญหาอุปสรรค จังหวัดจึงปรับเปลี่ยนวิธีการตรวจโดยใช้ชุดตรวจแบบ Antigen test Kit (ATK) กระจายไปยังอำเภอต่างๆ ควบคู่กับการบริหารวัคซีนป้องกันโรค โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ได้กระจายวัคซีนไปยังอำเภอต่างๆ ให้แก่ กลุ่มบุคลากรการแพทย์ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งกลุ่มวิชาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค พร้อมนี้ อบจ. ยังได้จัดหาวัคซีนทางเลือก (เพิ่มเติม) ให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

ในส่วนการบริหารเตียง ได้มีการเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลทุกแห่ง พร้อมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม Hospitel สามารถรองผู้ป่วยได้เพียงพอ จำนวน 3,967 เตียง และศูนย์พักคอยในชุมชน จำนวน 5,289 เตียง ส่วนผู้เข้าระบบการแยกกักที่บ้าน มีจำนวน 10,603 ราย ทั้งนี้ จังหวัดฯ ได้มีประกาศมาตรการเร่งรัดการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา โดยให้โรงพยาบาลจัดเตรียมเวชภัณฑ์ยา/อุปกรณ์ที่จำเป็น(กล่องช่วยชีวิต) สำหรับมอบให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบแยกกักตัวที่บ้าน และหากขาดแคลนอาหารหรือปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต สามารถติดต่อที่เทศบาลหรือ อบต. หรือสายด่วน Call Center

การสั่งปิดกิจการประเภทต่างๆ เป็นการปฏิบัติตามนโยบายของ ศบค. โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ ได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ ครม ยังอนุมัติงบประมาณเพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 คนละ 5,000 บาท ทั้งนี้ จังหวัดได้มีหนังสือแจ้งเสนอข้อร้องเรียนของผู้ประกอบการ ไปยัง ศบค.มท. เพื่อพิจารณาด้วยแล้ว

จากนั้น เวลา 12.15 น. กลุ่ม “บังยู ช่วยชาวอยุธยา” รถยนต์ 20 คัน ได้เคลื่อนขบวนฯ ออกจากที่บริเวณลานจอดรถยนต์พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ใช้เส้นทางถนนหมาย 309 (สายอยุธยา –อ่างทอง) มุ่งหน้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ ชุมชน ในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ภายในกิจกรรมฯ กลุ่มปราศรัยโจมตีทำงานของรัฐบาล ติดตั้งป้ายข้อความโจมตีรัฐบาล ,บีบแตรรถยนต์ ชูสามนิ้ว และจัดเตรียมสิ่งของบริจาคอุปโภค/บริโภค แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ตามจุดรับบริจาคต่างๆ ในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 9 จุด โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อย อีกทั้งยังมีการตั้งจุดกวดขันวินัยจราจรทั่วเมือง เหตุการณ์ปกติ

ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา