องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization, IMO) เป็นองค์การ ชำนัญพิเศษภายใต้องค์การสหประชาชาติ (United Nations, UN) ที่มีภารกิจสำคัญในการจัดทำอนุสัญญาระหว่างประเทศ ความตกลงระหว่างประเทศ และตราสารต่างๆ เพื่อกำหนดมาตรฐานและ แนวปฏิบัติในการบริหารจัดการความปลอดภัยในการเดินเรือ และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล ทั้งในฐานะรัฐเจ้าของธง (Flag State) รัฐเจ้าของท่าเรือ (Port State) และรัฐชายฝั่ง (Coastal State) นอกจากนั้น IMO ยังมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับกิจการทางทะเล ประสานและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก โดยประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก IMO เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2516 และได้พัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัยและการรักษา สิ่งแวดล้อมทางทะเลให้เป็นไปตามพันธกรณีอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมรับการตรวจสอบจาก IMO ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ที่กำลังจะถึงนี้ มีการตั้งคณะทำงานเสนอแนะแนวทางและติดตามเร่งรัดการแก้ไขอนุสัญญา และแก้ไขปรับปรุงกฎหมายภายใน เพื่อรองรับการอนุวัติการอนุสัญญาของ IMO จำนวน 6 อนุสัญญา โดยมีการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 2 วันต่อสัปดาห์ ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจอุบัติเหตุและอุบัติภัยทางน้ำ พร้อมตั้งคณะทำงานเพื่อจัดตั้งหน่วยงานสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติภัยทางน้ำ เพื่อสอบสวนอุบัติเหตุทางน้ำและรายงานผลการสอบสวนอุบัติเหตุให้กับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO)
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 และทำการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อยกระดับการปฏิบัติตามพันธกรณีตามอนุสัญญาระหว่างประเทศของ IMO เพื่อวิเคราะห์ข้อบกพร่อง (Gap analysis) รวมทั้งให้ข้อเสนแนะเพื่อปรับปรุงการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จตามแผน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการตรวจประเมินจาก IMO พร้อมจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจประเมินการปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาในด้านต่างๆโดยจัดกิจกรรมสาธิตการจำลองการตรวจประเมินเสมือนจริง (Explanatory Mock Audit) และจำลองจัดทำแผนแก้ไขข้อบกพร่อง (Corrective Action Plan, CAP) อยู่ระหว่างการเตรียมการจำลองการตรวจประเมินเสมือนจริง รวมทั้งประสานการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ โดยการลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญาระหว่างประเทศของ IMO อาทิ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินทางน้ำกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อสนับสนุนในด้านการให้ข้อมูลข่าวสารด้านอุตุนิยมวิทยาและการรายงานสภาพอากาศและคลื่นลมจากเรือ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) GISTDA เพื่อสนับสนุนความร่วมมือด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ในการจัดการขยะและมลพิษทางทะเล
ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำร่างบันทึกความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนหรือเชื่อมโยงข้อมูลด้านการสื่อสาร ด้านอุตุนิยมวิทยา ด้านอุทกศาสตร์ ด้านการเดินเรือ กับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมอุทกศาสตร์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
สำหรับด้านการพัฒนาระบบข้อมูล มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลพร้อมรองรับการตรวจสอบจาก IMO กรมเจ้าท่า ได้จัดสร้างศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ เพื่อตรวจติดตาม กำกับดูแลการคมนาคมขนส่งทางน้ำของประเทศทั้งระบบในทุกมิติเพื่อบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลการขนส่งทางทะเล ในลักษณะของข้อมูลขนาดใหญ่ (BIG DATA) โดยเป็นระบบบูรณาการข้อมูลกิจการทางทะเลของกรมเจ้าท่า (Thai Integrated Shipping Information System – THISIS) ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบบูรณาการข้อมูลกิจการทางทะเลของ IMO (Global Integrated Shipping Information System – GISIS) ทำให้สามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และรายงานการดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
การพัฒนาระบบตรวจการณ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างและอันดามัน (VTS ระยะที่ 3) เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยให้ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน และการพัฒนาระบบวิทยุติดต่อเรือเดินทะเลและปรับปรุงระบบสายอากาศ NAVTEX เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือข่าวการรายงานสภาพอากาศ ข่าวการพยากรณ์อากาศและข่าวการค้นหาและช่วยเหลือให้แก่เรือให้ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ภายใต้การดำเนินการของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2564
สำหรับประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีมีพันธกรณีตามอนุสัญญาฯ อธิบกรมเจ้าท่าได้ให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้มีการประชุมติดตาม ซักซ้อมเป็นประจำทุกเดือน เพื่อพร้อมรับการตรวจประเมินและยกระดับการดำเนินการของประเทศไทยให้ได้ตามมาตรฐานสากลต่อไป ดังเป้าประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ IMO ต้องผ่านน่านน้ำไทยต้องปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนากิจการพาณิชย์นาวีไทย
____________________________
28 สิงหาคม 2564
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม
โทรศัพท์ 02-233-1311-3 ต่อ 285
E-Mail : Pr@md.go.th