สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 25 ส.ค. 64
+ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
+ แม่น้ำสายหลัก ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคใต้ และแม่น้ำโขง น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มลดลง ภาคกลาง น้ำน้อยถึงปกติ มีแนวโน้มทรงตัว
+ ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 41,136 ล้าน ลบ.ม. (50%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 36,608 ล้าน ลบ.ม. (51%) เฝ้าระวังน้ำน้อยในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 11 แห่ง เฝ้าระวังน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน 1 แห่ง (อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา)
+ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เน้นย้ำให้หน่วยงานเร่งดำเนินการตาม10 มาตรการรับมือในช่วงท้ายฤดูฝน เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน
จากที่ สทนช.ติดตามผลการดำเนินงานล่าสุด พบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่สามารถดำเนินการตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น การคาดการณ์ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยง การบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำ การปรับปรุงเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำ การซ่อมแซมปรับปรุงอาคารชลศาสตร์และระบบระบายน้ำ การปรับปรุงและแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและปรับปรุงวิธีการส่งน้ำ และการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ ที่ได้มีการสร้างเครือข่าย 20 กระทรวง เพื่อขยายผลการรับรู้จากส่วนกลางสู่ท้องถิ่น และได้จัดทำเว็บไซต์ “ศูนย์ข้อมูลทรัพยากรน้ำระดับจังหวัด” เพื่อติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด โดยคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นสามารถใช้แจ้งเตือนประชาชนได้ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
รวมทั้งได้เชื่อมโยง 7 เครือข่ายหลัก เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล เช่น กอปภ.ก. โดย กระทรวงมหาดไทย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย โดย กระทรวงกลาโหม ศูนย์เมขลา/ศูนย์นาคราช โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร/ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดย กรุงเทพฯ และเครือข่ายจิตอาสา ภาคประชาชน ภาคเอกชน เป็นต้น