ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ. เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 63/2564 โดยมีนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายกฤช กระแสทิพย์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ สถานะเรือนจำยังคงที่ มีเรือนจำสีแดง ที่พบการระบาด 36 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 106 แห่ง
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ มีจำนวน 148 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 78 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 70 ราย) รักษาหายเพิ่ม 430 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,306 ราย (กลุ่มสีเขียว 88.2% สีเหลือง 11.4% และสีแดง 0.4%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 228 ราย ปริมณฑล 1,133 ราย และต่างจังหวัด 3,945 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 48,314 ราย หรือ 88.8% ของผู้ติดเชื้อสะสม 54,410 ราย เสียชีวิตสะสม 90 ราย หรือ 0.17% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว แม้ว่าได้ดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. วันนี้ โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุม ได้กำชับและทำความเข้าใจแนวทางการปล่อยตัวผู้ต้องขังให้มีความชัดเจนและถูกต้องตามระเบียบที่วางไว้ เพื่อถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ทั้งในเรือนจำสีแดง และเรือนจำสีขาว ตั้งแต่กลุ่มผู้ต้องขังที่ติดเชื้อและรับการรักษาอยู่ กลุ่มผู้ต้องขังไม่ติดเชื้อแต่มีความเสี่ยงสูง จนถึงกลุ่มผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อแต่ได้รับการรักษาจนหายและมีภูมิคุ้มกันแล้ว ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยตัวผู้พ้นโทษที่ติดเชื้อเพื่อทำการกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ทุกกรณีโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อไปแพร่ระบาดภายนอก
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามการดำเนินการเรื่องยาฟ้าทะลายโจร ที่ต้องเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อจ่ายยาให้แก่ผู้ต้องขังได้อย่างทั่วถึงและทันเวลาหากเกิดการระบาดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันเชื้อก่อนเข้าสู่เรือนจำ ที่จะต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะในเรือนจำที่ไม่เคยมีการระบาดเลย หรือเรือนจำที่พ้นการระบาดแล้ว ทั้งการตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าทำงาน การตรวจเชื้อและกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ รวมถึงการทำความความสะอาดและฆ่าเชื้อสิ่งของเครื่องใช้ ซึ่งต้องดำเนินการป้องกันเชื้อต่อไปอย่างเคร่งครัด
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 55 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 23 ราย เด็กและเยาวชน 32 ราย ผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 44 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 12 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 3 แห่ง และติดเชื้อ 9 แห่ง สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น 135 ราย หรือคิดเป็น 3.24% จากทั้งหมด 4,167 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 3,795 ราย หรือคิดเป็น 87% จากทั้งหมด 4,357 ราย