กรมประมง…เดินหน้าผลักดัน 2,450องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นไปสู่เครือข่ายองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นระดับจังหวัด เพื่อต่อยอดเป็นองค์กรระดับประเทศ

​​นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สนับสนุนให้กรมประมงเข้าไปส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสนับสนุนชุมชนประมงท้องถิ่นในการจัดการ การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนจากทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูทรัพยากร การพัฒนาอาชีพประมง สร้างรายได้ ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่พี่น้องชาวประมงให้เกิดความมั่นคง ซึ่งปัจจุบันนี้ มีชาวประมง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แปรรูปสัตว์น้ำ ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมประมงแล้วกว่า 2,450 องค์กร จำนวนสมาชิก 91,798 ราย ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564) โดยแบ่งเป็น 5 ด้าน ได้แก่

1) ด้านประมงทะเลชายฝั่ง จำนวน 775 องค์กร สมาชิก 32,011 ราย

2) ด้านประมงทะเลนอกชายฝั่ง จำนวน 64 องค์กร สมาชิก 3,780 ราย

3) ด้านประมงน้ำจืด จำนวน 504 องค์กร สมาชิก 17,946 ราย

4) ด้านเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จำนวน 307 องค์กร สมาชิก 7,504 ราย

5) ด้านการแปรรูปสัตว์น้ำ จำนวน 800 องค์กร สมาชิก 30,557 ราย นั้น

ที่ผ่านมา กรมประมง ภายใต้การขับเคลื่อนของนายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง ได้ดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านการเกษตรให้กับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านทั่วประเทศ ทั้งประมงทะเลชายฝั่ง ประมงทะเลนอกชายฝั่ง ประมงน้ำจืด เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการแปรรูป โดยมีการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ การพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน การพัฒนาปรับปรุงการจับสัตว์น้ำ การทำการประมงอย่างรับผิดชอบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าสัตว์น้ำ การแปรรูปสัตว์น้ำตามมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคได้บริโภคสัตว์น้ำที่มีคุณภาพ โดยกรมประมงได้เชื่อมโยงตลาด มีการพัฒนาต่อยอดจัดทำระบบการซื้อขายออนไลน์ (Fisheries Shop) ตลอดจนการพัฒนากิจกรรมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Fisherman Village Resort) ให้กับชุมชนประมงท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ภายใต้กรอบแผนงานและแนวทางในการพัฒนาการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ในแต่ละชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น จนกระทั่งวันนี้ ผลของการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถช่วยให้ทรัพยากรสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ชาวประมงพื้นบ้านในท้องถิ่น มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ หลายชุมชนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดกับชุมชนของตนเอง มีจิตอนุรักษ์ หวงแหน และเกิดการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นถิ่นร่วมกันของคนในชุมชน ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำมีความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำ

​โดยในขณะนี้ กรมประมงได้ผลักดันองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมประมง ให้พัฒนาไปสู่เครือข่ายองค์กรประมงท้องถิ่นระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มของชุมชนที่เข้มแข็ง นำไปสู่การเป็นองค์กรชุมชนประมงในระดับประเทศ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนประมงให้เกิดความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เกิดความเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกันพัฒนาการประมงของประเทศไทยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 25 ที่ว่าด้วย “การส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสนับสนุนชุมชนประมงท้องถิ่นในการจัดการ การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนจากทรัพยากรสัตว์น้ำ” อันจะนำไปสู่ความมั่นคงในการประกอบอาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องชาวประมง

​​ทั้งนี้ หากพี่น้องเกษตรกรและชาวประมงที่มีการร่วมกลุ่มกันและยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นกับกรมประมง เพื่อประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือทั้งเรื่องงบประมาณและความรู้ทางวิชาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ท่านสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ และสำนักงานประมงจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง โทร. 0 2558 0185 ในวันและเวลาราชการ….รองอธิบดีฯ กล่าว